Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

ทิศทางราคาทองคำวันนี้ 22 ก.ย.66 พูดคุยกับคุณวรุต รุ่งขำ YLG Futures

- Advertisement -

1,688

- Advertisement -

เกาะติดทิศทางราคาทองคำวันนี้ 22 ก.ย.66

สัมภาษณ์พิเศษ คุณวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บจ.วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส (YLG)

ทองไทยยังจ่อ 33,000 บาท แม้เงินบาทจะแข็งค่าช่วงท้ายสัปดาห์ ลุ้น กนง.ขึ้นดอกเบี้ยอาจดึงราคาทองลดลง

ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

.

- Advertisement -

.

รับชมคลิป เกาะติดทิศทางราคาทองคำวันนี้

คุณวรุต รุ่งขํา ผอ.ฝ่ายวิเคราะห์ บจ.วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวกับ GoldAround ว่า

หลังจากที่เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าทะลุ 36 บาทต่อดอลลาร์ จนทำให้ราคาทองคำในประเทศ ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ที่ 33,050 บาท ก่อนที่ในวันศุกร์เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นมา

ซึ่งในช่วงกลางสัปดาห์หน้าต้องจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. มีโอกาสที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% จากระดับ 2.25 บาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี สู่ระดับ 2.50 บาท เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในเดือน ส.ค.ได้ปรับตัวขึ้น และเป็นการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้ เพื่อเป็นการกดเงินเฟ้อให้มีการอ่อนตัวหรือเป็นการชะลอตัวลง

- Advertisement -

ปัจจัยหรือประเด็นดังกล่าว ถ้าเกิดขึ้นจริงอาจจะกลับมาส่งผลให้ทิศทางของค่าเงินบาทมีโอกาสกลับมาแข็งค่าได้

นอกจากนี้เงินบาทที่มีการกลับมาแข็งค่าหลังการเทขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอตัว ถ้าไปดู position หรือการเข้ามาซื้อเข้ามาขายของนักลงทุนชาวต่างชาติในตลาดหุ้นไทย และในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

จะพบว่านักลงทุนต่างชาติมีการเข้ามาซื้อสุทธิทั้งในตลาดหุ้น และเข้ามาเปิด long หรือว่าเปิดซื้อสุทธิในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามากถึง 21,049 สัญญา ถือว่าเป็นโมเมนตั้มหรือเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่อาจจะมองได้ว่าหุ้นของไทยอาจจะชะลอการปรับตัวลดลง

หาก กนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% อาจจะทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นจาก 36 บาท อาจจะมาอยู่แถว 35.74 บาท ซึ่งเคยเป็นจุดสูงสุดเดิมที่เคยเบรกเอาท์ขึ้นมาได้

ทั้งนี้ โดยปกติแล้วถ้าเงินบาทแข็งค่า 10 สต. จะทำให้ราคาทองคำไทยลดลงประมาณ 120-130 บาท ถ้าตอนนี้ค่าเงินบาทอยู่ 36.10 บาท หากแข็งค่าไปที่ระดับ 35.70 บาท อาจจะทำให้ราคาทองไทยลดลงไปประมาณ 400-450 บาท

อย่างไรก็ดี ต้องจับตาการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์ที่มีโอกาสแข็งค่าอย่างต่อเนื่องด้วย เพราะที่ประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังมีโอกาสที่จะขยับขึ้นดอกเบี้ยต่ออีก 1 ครั้งในปีนี้ หลังจากนั้นก็อาจจะมีการตรึงดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไปอีกระยะ

ซึ่งวาณิชธนกิจขนาดใหญ่อย่างโกลด์แมนแซค ก็ปรับคาดการณ์จากเดิมที่มองว่าเฟดอาจจะเริ่มลดดอกเบี้ยในช่วงไตรมาส 2 ปรับเป็น จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 4 ทำให้ต้องคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงไปอีกนาน หนุนให้บอนด์ยีลด์หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา อายุ 10 ปี ขึ้นแต่ระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี และกลับมากดราคาราคา gold spot

ขณะที่ นโยบายการเงินของบรรดาธนาคารกลางในกลุ่มประเทศขนาดใหญ่ อย่างเช่น ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ก็ไม่ได้มีการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งแตกต่างกับธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยที่หนุนให้ดอลลาร์ยังมีโมเมนตั้มหรือมีทิศทางที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง และยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปต่อได้ อาจจะไปแตะจุดสูงสุดของปลายปีที่ผ่านมา โซน 106.85 และ 107.55

ดังนั้น ภาพของการพักฐานของดอลลาร์ก็อาจจะจบแล้ว และอาจจะเห็นการวนกลับหรือการพลิกตัวกลับของดอลลาร์ได้เหมือนกัน

ส่วนการเคลื่อนไหวของราคา gold spot ในระยะสั้น มีภาพของการแกว่งตัวในทิศทาง side way ถึง side way down

โดยในสัปดาห์หน้า YLG ยังมองว่า ราคา gold spot ได้ปัจจัยหนุนจากช่วงของเทศกาลโกลเด้นวีค ของทางประเทศจีน ระหว่างวันที่ 1-7 ต.ค. ซึ่งจะหยุดยาวช่วงวันชาติ จากสถิติโดยรวมพบว่าก่อนถึงช่วงเทศกาลโกลเด้นวีค ราคาทองคำมักจะมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จะคล้าย ๆ กับช่วงเทศกาลตรุษจีนที่มีแรงซื้อทองคำ ทำให้ราคาไต่ระดับหรือมีการปรับตัวขึ้นมา แนวโน้มดังกล่าวเนี่ย YLG มองว่า น่าจะเป็นปัจจัยที่ประคับประคองราคาทองคำเอาไว้ได้

นอกจากนั้น ในสัปดาห์หน้ายังต้องติดตามการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ที่สำคัญหลายตัวทั้งตัวเลข GDP และดัชนีราคาผู้บริโภคส่วนบุคคล หรือ core pec ที่จะส่งผลต่อการคาดการณ์เศรษฐกิจของเฟดในอนาคต

รวมถึงก็จะมีเจ้าหน้าที่เฟดหลายสาขา รวมทั้งประธานเฟดออกมากล่าวสุนทรพจน์ ก็อาจจะต้องจับตาดูว่าจะมีการส่งสัญญาณหรือแสดงความเห็นสอดคล้องกับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือไม่

ดังนั้น กรอบการลงทุนยังต้องจับตามมองว่าราคา gold spot จะฟื้นตัวหรือปรับตัวขึ้นผ่าน 1,937 และ 1,948 ดอลลาร์หรือไม่

โดยมองว่าราคา gold spot น่าจะเป็นลักษณะของการแกว่งตัวในลักษณะ side way down จึงแนะนำทยอยแบ่งทองคำออกขายเพื่อเป็นการลดความเสี่ยง

ทั้งนี้ ถ้าราคา gold spot ขึ้นไปแถว 1,937 และ 1,948 ดอลลาร์ ได้ และเงินบาทอยู่ยังอยู่เหนือ 36 บาทขึ้นไป ก็อาจลุ้นเห็นราคาทองไทยขึ้นไปแถว 33,200 หรือ 33,400 บาท ได้

แต่หากจะเข้าลงทุน แนะนำรอราคาทองไทยย่อตัวลงมาแถว 32,400 หรือ 32,100 บาท หรือ ราคา gold spot ลงมาแถว 1,901 ดอลลาร์ เป็นระดับต่ำสุดของเดือน ก.ย. หรือ 1,884 ดอลลาร์ เป็นระดับต่ำสุดของเดือน ส.ค.

เนื่องจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำที่เป็น side way down เมื่อเวลาที่ราคาปรับลดลงมาระดับหนึ่ง ก็จะมีจังหวะรีบาวด์ ถ้าทองคำยังไม่หลุดดังกล่าว ก็ยังมองว่าเป็นจุดที่ยังสามารถเข้าซื้อเพื่อทำกำไรจากการรีบาวด์ แต่ต้องจับตาการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนหรือจับจังหวะในการลงทุน

- Advertisement -

Comments are closed.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More