ทองคำเตรียมรับแรงกระแทก หลัง “ทรัมป์” ขึ้นเป็น ปธน.สหรัฐ ไม่พุ่งแรงก็ล่วงลึก แต่ทองไทยดูปลอดภัยกว่า
คุณภัทริน วชิรคพรรณ Chief Operation Officer บจ.เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ กล่าวกับ GoldAround ว่า
ราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาปรับตัวสูงขึ้นกลับมาทดสอบแนวต้านที่ 2,725 ดอลลาร์อีกครั้ง ก่อนที่วันศุกร์ราคาจะลดลงมาแตะจุดต่ำสุดที่ 2,699 ดอลลาร์ ก่อนจะมาปิดตลาดที่ 2,703 ดอลลาร์ ก่อนที่ในวันที่ 20 มกราคมจะมีการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งคาดว่าจะทำตลาดเงิน ตลาดทุน และตลาดทองคำ เคลื่อนไหวผันผวน
ทั้งนี้สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ gold spot สามารถปรับขึ้นมายืนเหนือ 2,700 ดอลลาร์ได้ เพราะความกังวลจากนโยบายที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” จะประกาศหลังรับตำแหน่ง โดยเฉพาะเรื่องการใช้กำแพงภาษี แต่ทั้งนี้ต้องมารอฟังว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” จะมีนโยบายอะไรบ้าง
อย่างไรก็ดีในวันที่“โดนัลด์ ทรัมป์” สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ตลาดการเงินสหรัฐจะหยุดทำการ เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ซึ่งเป็นวันหยุดประจำชาติ ต้องมาดูว่าตลาดจะเคลื่อนไหวอย่างไร แต่เชื่อว่าในวันรุ่งขึ้นราคาทองคำน่าจะเคลื่อนไหวรุนแรง ดงันั้นของให้นักลงทุนวางแผนด้วยความระมัดระวัง
“ทั้งนี้ยังมองว่านักลงทุนระยะยาวไม่น่ามีปัญหา ยังสามารถถือเก็บยาวๆ ไปได้เลย แต่นักลงทุนระยะสั้นต้องระวัง แม้ว่าตอนนี้ทองคำจะยืนเหนือ 2,700 ดอลลาร์ได้ โดยได้แรงหนุนจากความกังวลจากนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ดังนั้นหลังจากที่เจ้าตัวประกาศนโยบายอย่างเป็นทางการเชื่อว่าทุกอย่างจะชัดเจนมากขึ้น และจะทำให้ราคาแกว่งตัวผันผวนพอสมควร มีโอกาสที่ราคาจะเคลื่อนไหวไปได้ทั้งกาปรับเพิ่มขึ้น หรือปรับลดลง” คุณ ภัทริน กล่าว
ดังนั้นอยากให้ลงทุนตามกรอบราคาทางเทคนิค หากราคาสามารถกลับไปทะลุ 2,725 ดอลลาร์ มีโอกาสสูงมากที่จะไปทดสอบจุดสูงสุดตลอดกาลเดิมที่ 2,790 ดอลลาร์ จากนั้นราคาอาจจะไปต่อ โดยอาจจะมีเป้าหมายขึ้นไปถึงระดับ 2,900 -3,000 ดอลลาร์ ตามที่วณธนกิจขนาดใหญ่ของต่างประเทศที่คาดการณ์ไว้
แต่ว่าถ้าราคาไม่สามารถเบรคไปได้ น่าจะกลับไปทดสอบบริเวณ 2,680-90 ดอลลาร์ ถ้ายังหลุดลงอาจจะไปแนวรับเดิม 2,665 ดอลลาร์ และถ้าหลุด 2,665 ดอลลาร์ไปได้ มองแนวรับสำคัญแถว 2,645 ดอลลาร์ ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นจุดตั้งระหว่างเส้นค่าเฉลี่ย 50 และ 100 วันใน timefame day และมองว่าจุดดังกล่าวน่าจะเป็นจุดเข้าซื้อจุดแรก
ส่วนอีกจุดแนวรับสำคัญคือ 2,536 ดอลลาร์ที่ราคาลงไปทดสอบเมื่อช่วงต้นเดือน พ.ย.หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศคว้าชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่ทั้งนี้อยากให้มองแนวรับไปทีละขั้นจะดีกว่า โดยก่อนจะถึงจุดดังกล่าวยังมีแนวรับที่ 2,580 ดอลลาร์ก่อน
เมื่อมามองทางเทคนิค ราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ปรับตัวขึ้นมาทดสอบแนวต้านที่ 2,725 ดอลลาร์เป็นครั้งที่ 3 เป็น Triple Top หากสัปดาห์นี้ยังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ มีโอกาสย่อตัวกลับลงมาเป็น Sideway ในกรอบ 2,630-2,730 ดอลลาร์ ได้อีก ซึ่งสัปดาห์นี้ให้ระวังความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งนี้ให้โซนแนวรับสำคัญอยู่ที่ 2,665-2,660 ดอลลาร์ และ2,635-2,630 ดอลลาร์ โดยหากราคาหลุดโซน 2,630 ดอลลาร์ลงไป มีโอกาสปรับตัวลงต่อเนื่องได้อีกพอสมควร
ส่วนโซนแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 2,720-2,730 ดอลลาร์ และ2,750-2,760 ดอลลาร์ หากราคาทะลุผ่านแนวต้านโซน 2,720-2,730 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ จะเป็นการเบรกกรอบsideway ในรอบ 2 เดือนกว่า และราคามีโอกาสที่จะทะยานขึ้นต่อได้
ส่วนราคาทองคำไทย สมาคมค้าทองคำประกาศราคาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (18 ม.ค.) ลดลง 50 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ อยู่ที่ 44,050 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,950 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 34.45 บาทต่อดอลลาร์ ทั้งนี้ที่ผ่านมาราคาทองคำไทยได้อานิสงส์ 2 ต่อจากราคาทองคำ gold spot ปรับเพิ่มขึ้น และค่าเงินบาทอ่อนค่าลง
ทั้งนี้ราคาทองไทยได้ปรับลดลงมา หลังจากไม่สามารถขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 44,500 บาทได้ จึงมองว่าแนว 43,800 บาท จะเป็นแนวรับแรก ถ้าลงมาถึงสามารถทยอยเข้าสะสมได้ ซึ่งราคาทองคำไทยอาจจะปรับลงยาก เพราะได้เงินอ่อนค่าคอยพยุงไว้ แต่หากว่าหลุดแนวดังกล่าวไปให้ขยับแนวรับในจุดที่ราคาปรับลงไปทุก ๆ 500 บาท และแนวรับสำคัญจะอยู่ที่ 42,500 บาท
อย่างไรก็ดีมองว่าโอกาสที่ราคาทองคำไทยจะทำจุดสูงสุดตลอดกาลมีมากกว่าราคาทองคำ gold spot เพราะมีเรื่องค่าเงินบาทมาเกี่ยวข้อง และถ้าราคาผ่าน 44,500 บาทไปได้
แนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ 45,000 บาท และต้องมาดูว่าจะสามารถไปถึงเป้าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ที่ 50,000 บาทได้หรือไม่ แต่อยากให้มองไปทีละแนวต้านจะดีกว่า
แต่ทั้งนี้เมื่อมองการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว จะเห็นได้ว่าแนวโน้มราคาทองคำยังเป็นขาขึ้นที่ชัดเจนมาก เพราะฉะนั้นให้เน้นการย่อซื้อสะสมเป็นหลัก
“ประเด็นสำคัญต้องรอดูว่า สิ่งที่ “โดนัลด็ ทรัมป์” จะประกาศนโยบายจะเรื่องอะไรบ้าง เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เพียงไร หากว่ามีนโยบายที่ทำให้ตลาดประหลาดใจ ราคาอาจจะกระชากแรง แต่หากว่าไม่มีอะไรเหนือคาดการณ์ ราคาอาจจะเหวี่ยงไม่มาก ซึ่งต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาตลาดได้ซึมซับข้อมูลไปบางส่วนแล้ว ดั้งนั้นหากว่านักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย อาจจะรอความชัดเจนอีกครั้งก่อนที่จะกลับมาวางแผนการลงทุนอีกครั้ง” คุณ ภัทริน กล่าว
รับชมคลิป
Comments are closed.