- Advertisement -

ในช่วงที่ผ่านมา GoldAround.com ได้นำเสนอ 4 สถานการณ์ผลลัพธ์การเลือกตั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐที่อาจเกิดขึ้นได้และผลกระทบที่อาจเกินขึ้นกับตลาดทองคำ ซึ่งจัดทำโดยบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ในวันนี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ชาวอเมริกันจะได้ออกไปลงคะแนนเสียงเลือกผู้นำคนใหม่ ว่าจะให่ “โดนัล ทรัมป์” ตัวแทนจากพรรครีพลับรีกัน ดำรงตำแหน่งต่อไปอีก 4 ปี  หรือจะให้ “โจ ไบเดน” จากพรรคเดโมแครต เข้ามาทำหน้าที่แทน

การเลือกตั้งในครั้งนี้ได้ถูกจับตาจากทั่วโลก เพราะอาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยน แปลงในหลายด้าน เพราะสหรัฐถือเป็นประเทศมหาอำนาจของโลก ดังนั้นเมื่อจะมีการปรับเปลี่ยนผู้นำ หรืออาจจะเป็นผู้นำคนเดิมที่ได้รับความไว้วางใจให้นั่งบริหารงานต่อไปอีก 4 ปี ก็คงจะมีการปรับเปลี่ยนนโบยายจากที่ทำอยู่แล้วบางส่วน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดผลกระทบไปทั่วโลกอย่างแน่นอน

มาดูกันว่าหลังการลงคะแนนวันที่ 3 พ.ย. ผลลัพธ์จะออกมาในรูปแบบใดได้บ้าง และจะส่งกระบทบราคาทองคำอย่างไรบ้าง  

Scenario 1 : พรรคเดโมแครตกวาดชัยชนะทั้งหมด (Medium probability)

- Advertisement -

เป็น หนึ่งในสถานการณ์ที่เป็นบวกกับราคาทองได้มากที่สุด

ในกรณีที่นายโจ ไบเดน ชนะและพรรคเดโมแครตซึ่งครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทน ราษฎรอยู่แล้ว พลิกกลับมาครองเสียงมากในวุฒิสภาด้วยตลาดหุ้นมีแนวโน้มจะร่วงลงอย่างหนัก เพราะจะเกิดการผลักดันให้มีการเพิ่มกฎระเบียบ และการขึ้นภาษีได้อย่างง่ายดาย แม้ทองคำจะเสี่ยงถูกขายตามหุ้นมาในระยะสั้น

อย่างไรก็การที่ตลาดหุ้นสหรัฐมีความน่าสนใจน้อยลงเมื่อเทียบกับตลาดต่างประเทศ อาจส่งผลให้เกิดการขายดอลลาร์จากการไหลออกของเงินทุน

นอกจากนี้ทองคำจะมีปัจจัยบวกใหญ่กว่า ได้แก่ มาตรการกระตุ้นทางการคลังครั้งใหญ่ เนื่องจากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น มีแนวโน้มจะกดดันสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐให้อ่อนค่าลงประกอบกับนโยบายต่างประเทศที่ผ่อนคลายลงจากสมัยประธานาธิบดีทรัมป์อาจลดค่าความเสี่ยงในบางสกุลเงิน โดยเฉพาะเงินหยวนของจีน จึงมีแนวโน้มที่ทองคำจะได้รับแรงหนุนในที่สุด

Scenario 2 : นายโจ ไบเดน ได้รับชัยชนะ แต่พรรครีพับลิกันยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา (Highprobability)

- Advertisement -

นี่อาจเป็นสถานการณ์ที่เป็นไปได้มากที่สุดจากการสำรวจความคิดเห็นในปัจจุบัน

ในกรณีนี้ตลาดหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ เนื่องจากนโยบายด้านการค้าภายใต้นายไบเดนจะผ่อนคลายมากกว่า ในขณะเดียวกัน วุฒิสภาจะขวางไม่ให้ไบเดนดำเนินนโยบายทางภาษี

ส่วนเงินดอลลาร์ซึ่งปัจจุบันเคลื่อนไหวในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมีแนวโน้มที่จะสูญเสียความน่าดึงดูด จึงอาจจะเป็นปัจจัยหนุนทองได้ แต่กรณีนี้ราคาทองคำจะมีพื้นที่จำกัดในการพุ่งขึ้น เนื่องจากการที่ 2 สภามาจาก 2 พรรคการเมืองจะทำให้การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังรอบใหม่เผชิญกับอุปสรรค นั่นหมายถึงเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจจะไม่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะลดทอนความน่าสนใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของสกุลเงิน

Scenario 3 : ปธน.ทรัมป์ชนะ (Low probability)

ในกรณีที่ประธานาธิบดีทรัมป์ คว้าชัยชนะอีกครั้ง ตลาดหุ้นก็จะพุ่งสูงขึ้น  เนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์ จะเดินหน้าดำเนินนโยบายที่เป็นมิตรกับภาคธุรกิจ

ภายใต้สถานการณ์นี้จะเป็นปัจจัยบวกสำหรับทองคำหรือไม่ขึ้น อยู่กับว่าจะมีการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ได้หรือไม่

หากมี จะลดทอนความน่าสนใจของสกุลเงินดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย พร้อมกับกระตุ้นความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของสกุลเงิน ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ

หากไม่มี สกุลเงินดอลลาร์จะได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำจะเผชิญกับอุปสรรค

Scenario 4 : การเลือกตั้ง ที่มีการโต้แย้ง(Contested Election) (ถ้าผลเลือกตั้งสูสีจะ High probability)

เป็นหนึ่งในสถานการณ์ที่เป็นบวกกับราคาทองคำได้มากที่สุด

ในกรณีที่ผลเลือกตั้งสูสีกันมาก หรือหากทั้งนายโจ ไบเดน และประธานาธิบดีทรัมป์ ต่างก็ระบุว่าเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะทั้งคู่ หรือหากประธานาธิบดีทรัมป์ ร้องเรียนเรื่องความถูกต้องชอบธรรมของการส่งบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ เนื่องจากปีนี้มีชาวอเมริกันใช้วิธีส่งบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์เกือบ 80 ล้านคน อาจจะเกิดการฟ้องร้องต่อศาลในรัฐที่มีการโต้แย้งเกิดขึ้น

หากเกิดขึ้นจริง จะต้องพึ่งกระบวนการทางกฎหมายในการชี้ขาดผู้ชนะ นั่นหมายถึงอาจใช้เวลาเป็ น สัปดาห์หรือเป็นเดือน กว่าจะทราบผลการเลือกตั้ง

สถานการณ์นี้จะถือว่าเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายสำหรับตลาดหุ้น เพราะจะสร้างความไม่แน่นอนอย่างมากเพราะจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจและจะส่งผลให้หุ้นร่วงลง ทองคำก็มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นที่ลดลงในช่วงต้นเนื่องจากปัจจุบัน ราคาทองคำกับตลาดหุ้นมักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน

อย่างไรก็ดี หากสกุลเงินดอลลาร์ไม่ได้รับแรงหนุนจากสินทรัพย์ปลอดภัย และอ่อนค่าลงจากภาวะดังกล่าว จะเป็นปัจจัยหนุนทองคำอย่างมาก เนื่องจากทองคำจะได้รับแรงหนุนทั้ง กระแสเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย และได้อานิสงค์จากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์

- Advertisement -