- Advertisement -

แม้ว่าตัวเลขเฟ้อของสหรัฐฯ จะยังคงสูงเกินกว่า 8% สูงสุดในรอบ 40 ปี แต่จากผลสำรวจความคาดหวังของผู้บริโภคฉบับล่าสุด ของธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ค ระบุผู้บริโภคคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงเพิ่มสูงขึ้นในปีนี้ และแนวโน้มในอีก 3 ปีข้างหน้ายังเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ การคาดการณ์เงินเฟ้อล่วงหน้า 3 ปีข้างหน้า ได้ลดระดับลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และเริ่มลดลงเล็กน้อยหลังจากแตะระดับสูงสุดที่ 4.2 เปอร์เซ็นต์ ในเดือน ก.ย. และ ต.ค. 64

ขณะที่ การคาดการณ์เงินเฟ้อล่วงหน้า 5 ปีข้างหน้า มีเสถียรภาพมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และต่ำกว่าการคาดการณ์เงินเฟ้อระยะสั้นและระยะกลางอย่างมาก

ทั้งนี้ จากรายงานระบุว่า ผู้บริโภคคาดว่าเงินเฟ้อในปีนี้จะสูงกว่า 6% และอัตราเงินเฟ้อในอีก 3 ปีข้างหน้า คาดว่าจะอยู่ในระดับปานกลางถึง 4% ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า จากผลสำรวจมองได้ว่า ผู้บริโภคยังมองว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปในอนาคต

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เฟด ได้เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเดือน พ.ค. ซึ่งความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ ด้วยการส่งสัญญาณว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 คะแนน ในการประชุมครั้งต่อไป ทำให้ราคาทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญจากภัยคุกคามจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มขึ้น

- Advertisement -

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนตั้งข้อสังเกตว่า ยังมีความไม่แน่นอนอยู่มากว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะสามารถใช้นโยบายการเงินเพื่อการแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ( ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ ) ได้หรือไม่อย่างไร และการชะลองตัวของเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น ก็จะยังหนุนให้ราคาทองคำเดินหน้าต่อไป

ทาง เอ็ดเวิร์ด โมยา กล่าว นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ OANDA ระบุว่า

ทองคำ ยังคงต่อสู้กับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และทิศทางของดอลลาร์ที่พุ่งสูงขึ้น แต่ความเชื่อมั่นในทองคำเริ่มเปลี่ยนไป หลังยังคงทรงตัวที่ 1,850 ดอลลาร์ ได้

ซึ่งทางนักวิเคราะห์ของวอลล์สตรีท รอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอัตราเงินเฟ้อในอีกสองสามเดือนข้างหน้า ทั้งนี้ อาจจะทำให้ราคาทองคำร่วงลงไปทดสอบในระยะสั้น ที่ 1,839 ดอลลาร์ หรืออาจจะบินขึ้นไปแตะระดับ 1,870 ดอลลาร์ ได้

- Advertisement -

ที่มา : Kitco.com

- Advertisement -