การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการหลายตัวติดต่อกัน ล่าสุดประมาณการ GDP ไตรมาสแรก ครั้งที่ 2 ติดลบ -1.5%
ทำให้ดัชนีดอลลาร์ร่วงต่ำกว่า 102 อีกรอบ และพยุงราคาทองคำให้ยังเคลื่อนไหวเหนือแนว 1,850 ดอลลาร์ ได้ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศเช้านี้ยังไม่ขยับ ทำให้ราคาขายออกยังต่ำกว่า 30,000 บาท
ราคาทองคำ วานนี้ แกว่งตัวในกรอบ 1,841-1,854 ดอลลาร์ ก่อนปิดตลาดปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยระหว่างวันราคาทองคำร่วงลงทดสอบกรอบด้านล่างบริเวณ 1,841 ดอลลาร์ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.758% ท่ามกลางแรงขายพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากนักลงทุนกลับมาเปิดรับความเสี่ยง
ก่อนที่ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อมา หลังดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจชะลอหรือระงับการคุมเข้มนโยบายการเงินในช่วงครึ่งปีหลังของปี เนื่องจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในระยะนี้ส่วนใหญ่ออกมาแย่เกินคาด
ล่าสุดประมาณการณ์จีดีพีไตรมาส 1 ครั้งที่ 2 หดตัว -1.5% แย่กว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ -1.4% และแย่กว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะหดตัวเพียง -1.3% กดดันดัชนีดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง 0.31% ปิดตลาดที่ 101.465 และหนุนให้ราคาทองคำในฟื้นตัวมาปิดตลาดที่ 1,849 ดอลลาร์
ส่วนความเคลื่อนไหวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวเหนือแนว 1,850 ดอลลาร์
โดย YLG มองว่า
วานนี้ราคาทำระดับต่ำสุดใหม่จากวันก่อนหน้า หากวันนี้ราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,858-1,869 ดอลลาร์ ซึ่ง 1,869 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระดับสูงสุดของสัปดาห์นี้ อาจส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรระยะสั้นเพิ่มขึ้น
สำหรับวันนี้ ประเมินแนวรับระยะสั้นในโซน 1,841-1,836 ดอลลาร์ หากยืนไม่ได้ ประเมินแนวรับถัดไปบริเวณ 1,818 ดอลลาร์
คำแนะนำการลงทุนวันนี้ ให้เปิดสถานะขาย ที่ 1,858-1,869 ดอลลาร์ เพื่อทำกำไรที่ 1,841-1,836 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนสถานะขาย หากราคาทองคำผ่าน 1,869 ดอลลาร์
ส่วนราคาทองคำในประเทศไทย ที่ประกาศโดย สมาคมค้าทองคำ
เช้านี้ (26 พ.ค.) ยังไม่ขยับ โดยทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ล่าสุด (10.30 น.) อยู่ที่ 29,950 บาท ส่วนราคารับซื้ออยู่ที่ 29,850 บาท
สำหรับคืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนี
ราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือน เม.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน จากเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี จากเพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน พ.ค. ของ ม.มิชิแกน ตลาดคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 59.1
หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.