ปัจจัยลบยังถาโถมถล่มทองคำ แต่ gold spot พยายามปักหลักเหนือ $4,000 สัปดาห์นี้คาดขยับ sideway รอปัจจัยใหม่

มาดูของราคาทองคำไทยเช้านี้ สมาคมค้าทองคำ ประกาศปรับราคาแรกลดลง 50 บาท

จากนั้นปรับราคาขึ้น-ลง 4 ครั้ง ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.15 น. อยู่ที่ 61,450 บาท ส่วนราคารับซื้อ 61,350 บาท ขณะที่ราคาขายออกทองรูปพรรณอยู่ที่ 62,250 บาท ส่วนราคารับซื้ออยู่ที่ 60,124.56 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 32.42 บาทต่อดอลลาร์

Shining Gold  มองว่า

ราคาทองคำไทยยังไม่พบสัญญาณการกลับตัวที่ชัดเจนยังเป็นลักษณะการเด้งรีบาวน์หลังมีการชนแนวรับสำคัญ ๆ เท่านั้น

ภาพรวมระยะสั้นเป็นลักษณะรีบาวน์เพื่อพักฐานต่อได้ ภาพรวมระยะกลาง และ ระยะยาวยังไม่พบความเสียหยของเทรนด์

นักลงทุนระยะสั้นการเข้าออกเก็งกำไรต้องเพิ่มความระมัดระวัง นักลงทุนระยะกลาง รอเข้าซื้อแบบแบ่งไม้เว้นระยะอย่างน้อย 4-6 ไม้ เฉพาะจุดแนวรับสำคัญ เช่น 60,000/59,500 และ 58,500 บาท ส่วนที่เหลืออรอประเมินสถานการณ์ตลาดก่อน ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 61,400/61,700 และ 62,000 บาท

ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมา ยังเหวี่ยงตัวแรงลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ 3,886 ดอลลาร์ ก่อนมาปิดตลาดที่ 4,002 ดอลลาร์ ทำให้ทองคำยังปิดเดือนตุลาคมในแดนบวก เพิ่มขึ้น 114 ดอลลาร์ หรือ 3.74% แม้จะมีแรงเทขายในช่วงท้าย แต่ยังยืนเหนือ 4,000 ดอลลาร์ได้

ก่อนที่เช้านี้ราคาจะลงไปทดสอบ 3,960 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงกดดัน หลังรัฐบาลจีนประกาศว่า ผู้ค้าปลีกในจีนจะไม่สามารถนำเครดิตภาษีมูลค่าเพิ่มมาหักลดหย่อนได้ เมื่อขายทองที่ซื้อมาจาก Shanghai Gold Exchange (SGE)ไม่ว่าจะขายตรงหรือผ่านการแปรรูปแล้วก็ตาม ส่งผลให้ราคาขายทองสำหรับผู้บริโภคในจีนอาจสูงขึ้น ซึ่งคาดว่าจะกดดันการบริโภคทองคำในจีนซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำอันดับ 1 ของโลก

ประกอบกับทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ได้เผยแพร่เอกสารรายละเอียดเมื่อวันที่ 1 พ.ย. เกี่ยวกับข้อตกลงการค้าที่ปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง ได้ทำไว้ที่เกาหลีใต้ โดยจีนจะระงับการบังคับใช้มาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากเพิ่มเติม และจะยุติการสอบสวนบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ ในซัพพลายเชนเซมิคอนดักเตอร์ด้วย

ปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นแรงขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มเติม อย่างไรก็ดีราคาทองคำพยายามฟื้นตัวมาปักหลักยืนเหนือ 4,000 ดอลลาร์

มาดูมุมมองจากบริษัทค้าทองคำในประเทศ ทาง เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ มองว่า

ราคา gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมาฐานอยู่โซน 4,000 ดอลลาร์ ภาพรวมหลังจากหลุดเส้น Trend Line ยังคงอยู่ในช่วงของการปรับฐาน สัปดาห์นี้มีตัวเลข Nonfarm Payrolls และตัวเลข การว่างงาน เตรียมรับความผันผวน และราคาที่อาจจะพุ่งออกจากโซน Sideway

ทั้งนี้โซนแนวรับสำคัญที่ 3,850-3,870 ดอลลาร์ และ 3,730-3,700 ดอลลาร์ หากราคาหลุดลงต่ำ กว่า 3,880ดอลลาร์ ระวังราคาลงแรง ส่วนโซนแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 4,080-4,100 ดอลลาร์ และ 4,150-4,180 ดอลลาร์ พิจารณาขายทำ กำ ไร ณ โซนดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากราคาทำสัญญาณกลับตัว พร้อมกับเกิดแรงขายเทกลับลงมา

ขณะที่ InterGOLD มองว่า

กราฟทองรายชั่วโมงยังพักฐานต่อเนื่องลงมาที่แนวรับของกรอบ Sideway-Up ยังมีโอกาสร่วงลงมาได้ถึงแนวรับที่ 3,950 ดอลลาร์

แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อที่แนวรับ 3,950 ดอลลาร์ หรือ 60,800 บาท และลุ้นขึ้นไปขายทำกำไรที่แนวต้าน 4,090 ดอลลาร์ หรือ 62,100 บาท

ด้าน YLG Bullion มองว่า

เมื่อวันศุกร์การดีดตัวของราคายังอยู่ในกรอบจำกัด โดยราคายังไม่ผ่าน 4,058-4,029 ดอลลาร์ ทำให้เกิดแรงขายซึ่งส่งผลให้ราคากลับมาพักตัวอีกครั้ง วันนี้หากเกิดแรงขายแต่ราคาสามารถยืนเหนือ 3,962-3,955 ดอลลาร์ ได้จะเริ่มสร้างมุมมองว่าการพักตัวอาจจบแล้วและยังไม่เสียโมเมนตั้มขาขึ้นในระยะสั้น กลับกันหากราคากลับไปหลุด 3,962-3,955 ดอลลาร์ แสดงว่าการการปรับฐานอาจยังไม่จบ

กลยุทธ์การลงทุน ขายทำกำไรไม้ซื้อถ้าไม่ผ่าน 4,058-4,029 ดอลลาร์ พร้อมขยับ Trailing Stop มาที่ 3,982 ดอลลาร์ เพื่อ Lock กำไร เสี่ยงซื้อหากไม่หลุด 3,955 ดอลลาร์ หากหลุด 3,955 ดอลลาร์ ให้ชะลอไปซื้อถ้าไม่หลุด 3,887 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากหลุด 3,887 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ Ausiris มองว่า

ราคาทองคำเมื่อคืนวันศุกร์ เคลื่อนไหวในกรอบ SideWay โดยมีกรอบแนวต้าน 4,040-4,050 ดอลลาร์ โดยยังไม่สามารถดันราคาขยับขึ้นเบรกกรอบแนวต้านไปได้ โดยปรับตัวขึ้นได้เพียง 4,036 ดอลลาร์ ก่อนย่อตัวกลับลงมา

อย่างไรราคาทองคำย่อลงมาแต่ไม่หลุดต่ำกว่ากรอบแนวรับ 3,960-3,950 ดอลลาร์ ทำให้มองว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวเพื่อพักฐานรอเลือกทิศทางอีกครั้ง

วันนี้แนะนำให้ซื้อขายตามกรอบแนวรับ-ต้าน โดยเฉพาะผู้ที่ถือซื้อไว้ให้ทยอยขายทำกำไรหากราคาปรับตัวขึ้น

รับชมคลิป