gold spot ยังไปต่อขึ้นทดสอบ $3,360 แต่ทองไทยไปไม่ไกลเหตุบาทแตะ 32.35 บาท คืนนี้รอดู NFP หากยังร่วงอาจหนุน FED ลดดบ.เร็ว
มาดูภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำไทย สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ 10.35 น. อยู่ที่ 51,250 บาท ส่วนราคารับซื้อ 51,150 บาท
ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 52,050 บาท ส่วนราคารับซื้อ 50,134.12บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 32.35 บาทต่อดอลลาร์
ด้าน ทาง ShiningGold bullion มองว่า
ราคาทองคำไทยอยู่ในช่วงทดสอบการกลับตัว โดยปกติสัญญาณการกลับตัวจะมาช้ากว่าราคาที่ดีดตัวขึ้นไปแล้วเสมอ ลุ้นการทดสอบทีละแนวต้านตามลำดับ และจุดสำคัญที่สุดสำหรับการยืนยันการกลับเทรนด์คือ 51,800 บาท ถือเป็นแนววัดระดับการเปลี่ยนเทรนด์ระยะสั้น สู่ระยะกลางที่ดีขึ้น ตราบใดที่ราคายังไม่ผ่านแนวดังกล่าว จะเป็นการลงทุนเก็งกำไรไม่มากนัก
สำหรับนักลงทุนที่มีไม้ถัวเฉลี่ยต่ำกว่า 3 ไม้ และสำหรับท่านที่มีไม้ถัวตามแผน 4-6 ไม้ ยังมีความได้เปรียบในการ Run Profit จนกว่าจะพบแท่งเสียหายของเทรนด์ค่อยตัดกำไรออกมา หรือ เลือกเข้าสะสมเพิ่มเมื่อมีการย่อตัวมาถึงจุดสำคัญเท่านั้น
โดยให้แนวต้าน 51,400/51,700 และ 51,900 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 51,150 /50,850 และ 50,000 บาท
ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ปิดบวกอีก 20 ดอลลาร์ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 3,360 ดอลลาร์ ก่อนที่เช้าวันนี้จะลดลงมาแถว 3,340ดอลลาร์ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาแย่กว่าคาด โดย ADP เผยตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเดือน มิ.ย.ลดลง 33,000 ตำแหน่ง เป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปีหรือนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2023 สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้น 100,000 ตำแหน่ง ซึ่งผลของตัวเลขดังกล่าวกระตุ้นการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้า
นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการคลังของสหรัฐ หลังร่างกฎหมายลดภาษีและเพิ่มการใช้จ่ายขนานใหญ่ของปธน.ทรัมป์ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มหนี้สาธารณะของประเทศถึง 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรเพื่ออนุมัติขั้นสุดท้ายก่อนปธน.ทรัมป์จะลงนามบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป
ส่วนคืนนี้สหรัฐจะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัว โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มิ.ย. คาดว่าจะลดลงแตะ 111,000 ตำแหน่ง จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 139,000ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานเดือน มิ.ย. จะเพิ่มขึ้นแตะ 4.3% จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่4.2 % ส่วนค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงเทียบรายเดือน เดือน มิ.ย. ลดลงมาที่ 0.3% จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 0.4%
มาดูจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ คาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 240,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าอยู่ที่ 236,000 ราย และ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของ ISM เดือน มิ.ย คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 50.8 จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 49.9
มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในประเทศ ทาง YLG Bullion มองว่า
วานนี้ราคาทองคำ gold spot พักตัวแต่ยังยืนเหนือแนวรับแรกที่เป็น MA 50 วันบริเวณ 3,320 ดอลลาร์ได้ ทำให้เช้านี้เกิดการดีดตัวขึ้นดังคาด วันนี้หากราคายืนเหนือบริเวณ 3,334 ดอลลาร์ได้มองยังมีโอกาสดีดตัว แต่หากหลุด 3,334 ดอลลาร์ ราคาจะเข้าสู่ชุดพักตัวในดีกรีที่ใหญ่กว่า อย่างไรก็ดี หากการพักตัวไม่หลุด 3,247 ดอลลาร์ มองว่ามีแนวโน้มจะเป็นการพักเพื่อขึ้นต่อ
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน อาจเสี่ยงเปิดสถานะซื้อหากไม่หลุด 3,334 ดอลลาร์ หากหลุด 3,334 ดอลลาร์ รอเข้าซื้อที่ 3,320-3,295 ดอลลาร์ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด 3,295 ดอลลาร์ แบ่งขายหากไม่ผ่าน 3,350-3,365 ดอลลาร์ แต่หากผ่าน 3,365 ดอลลาร์ไปได้ ชะลอไปขายที่แนวต้านถัดไป
ขณะที่ T.D.C. Gold มองว่า
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อหลังตัวเลขจ้างงานออกมาแย่กว่าคาด โดยตัวเลข ADP ที่ประกาศเมื่อคืนนี้หดตัวอย่างมาก และคาดว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เลื่อนมาประกาศวันนี้ จะหดตัวเช่นเดียวกันขณะที่ Fed ระบุที่ไม่ลดดอกเบี้ย หลังจากที่ปรับลดดอกเบี้ยนับจากครั้งสุดท้ายในเดือน ธ.ค. 2024 มีสาเหตุหลักๆ มาจากผลพวงจากภาษีเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงนโยบายที่ทำให้ขาดดุลการคลังเพิ่มสูงขึ้น
ด้าน GCAP Gold มองเชิงเทคนิคว่า
ราคาทองคำบนกราฟ H4 แสดงสัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้นชัดเจน หลังเกิด Bullish CHoCH หลายจุดและสร้างโครงสร้าง Higher Highs/ Higher Lows ต่อเนื่อง
โดยราคายืนเหนือแนวรับ 3,230–3,260 ดอลลาร์ และกำลังทดสอบแนวต้านสำคัญ 3,350–3,365 ดอลลาร์หากทะลุผ่านได้จะเปิดทางสู่เป้าหมายถัดไปที่ 3,385–3,400 ดอลลาร์
กลยุทธ์ยังคงเน้น Buy on dip โดยใช้แนวรับบริเวณ 3,300–3,315 ดอลลาร์ เป็นจุดสะสม และตั้งจุดตัดขาดทุนใต้ 3,280 ดอลลาร์ โดยให้แนวต้าน 3,362 / 3,367 และ 3,372 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 3,326 / 3,321 และ 3,316 ดอลลาร์
ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์
ให้แนวรับรายวันที่ 3,335 และ 3,325 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 3,365 และ 3,375 ดอลลาร์
รับชมคลิป
Comments are closed.