- Advertisement -

สรุปข่าว ราคาทองคำ วันนี้ 24 ก.ค.66 | GoldAround Podcast

gold spot พักตัวแนว $1,960 รอประชุม FED ส่วนทองไทยเปิดสัปดาห์ยังอยู่ที่ 32,000 สัปดาห์นี้คาดเคลื่อนไหวผันผวนทั้ง 2 ตลาด

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

.

.

- Advertisement -

รับชมคลิป สรุปข่าว ราคาทองคำ วันนี้ 24 ก.ค.66

ราคาทองคำไทยเปิดสัปดาห์ยังเท่ากับราคาปิดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดย สมาคมค้าทองคำ เปิดราคาขายออกอยู่ที่ 32,000 บาท ราคารับซื้ออยู่ที่ 31,900 บาท คำนวนจากค่าเงินบาทที่ 34.47 บาทต่อดอลลาร์

โดยวันนี้ คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.30-34.50 บาท/ดอลลาร์ ทั้งนี้ แนวโน้มของค่าเงินบาทโมเมนตั้มฝั่งอ่อนค่าเริ่มกลับมาอีกครั้ง แต่ทั้งนี้ต้องรอดูความชัดเจนของการโหวตเลือกนายกฯ ในวันพฤหัส รวมถึงการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสม

ขณะที่ ในต่างประเทศมีการประชุมธนาคารกลางสำหรับ ทั้ง FED และ ECB คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก ซึ่งจะส่งผลต่อค่าเงินบาทอาจผันผวนได้

ขณะที่ราคา gold spot ในภาพรวม timefame รายสัปดาห์ยังปิดตลาดในแดนบวก 3 สัปดาห์ติด แม้ว่าสัปดาห์ล่าสุดจะลดลงเหลือบวกแค่ 6 ดอลลาร์ แต่รวม 3 สัปดาห์บวกรวมประมาณ 40 ดอลลาร์

- Advertisement -

แต่หากลงมาดูใน timefame รายวัน จะเห็นว่า ได้ปิดตลาดในแดนลบมา 3 วันติด ร่วม 17 ดอลลาร์ โดยเมื่อวันศุกร์ปิดตลาดที่ 1,960 ดอลลาร์ แต่ในภาพรวมถือว่ายังไม่เลวร้ายนัก

โดยราคาทองคำถูกเทขายหลังเงินดอลลาร์แข็งค่า ดีดกลับมายืนเหนือระดับ 100 ได้ และ Bond yield สหรัฐเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น

โดยประเด็นหลักที่นักลงทุนจับตามองใกล้ชิด ก็คือ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และการแถลงของ ปธ.เฟด หลังการประชุมในช่วงดึกคืนวันพุธต่อเช้าวันพฤหัสตามเวลาในประเทศไทย

ในส่วนของการปรับขึ้นดอกเบี้ย ตลาดมองว่า เฟดจะขึ้นอีก 0.25% แต่สิ่งที่กำลังรอคือถ้อยแถลงของ ปธ.เฟด เกี่ยวกับนโยบายดอกเบี้ยในอนาคต

แม้ว่าที่ผ่านมา ปธ.เฟดจะระบุว่า อาจจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ แต่หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ได้ปรับลดลงต่อเนื่อง ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็เริ่มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ก็อาจจะเป็นเหตุผลที่เฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย แต่ต้องมาดูว่า ปธ.เฟดจะให้คำตอบกับตลาดอย่างไร

นอกจากนั้น ในสัปดาห์นี้ยังมีตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าสนใจอีกหลายตัว โดยคืนนี้จะมีตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้น เดือน ก.ค. จาก เอสแอนด์พีโกลบอล ในส่วนภาคการผลิตคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 46.1 จาก 46.3 ในเดือน มิ.ย. และ ภาคบริการคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 54.0 จาก 54.4 ในเดือน มิ.ย.

ขณะที่วันพุธจะมีตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ เดือน มิ.ย. วันพฤหัส ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขประมาณการเบื้องต้นผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2566

ปิดท้ายสัปดาห์ในวันศุกร์ด้วยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน มิ.ย. และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้าย เดือน ก.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

ไปดูมุมมองการลงทุนของบริษัทค้าทองคำในประเทศ

ทาง เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ มองว่า

ทิศทางราคา gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมา ขยับขึ้นมาทดสอบแนวต้านโซน 1,980 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นโซนแนวต้านเก่าที่มีที่นัยสำคัญ จากนั้นจึงค่อย ๆ ปรับฐานและมีแรงขายกดราคากลับลงมา

สัปดาห์นี้มีข่าวสำคัญ ๆ รออยู่ค่อนข้างมาก เตรียมตัวรับความผันผวนและการเปลี่ยนโซนวิ่งของราคาทองคำ โซนแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 1,970-1,985 ดอลลาร์ และ 2,000-2,010 ดอลลาร์

หากราคากลับขึ้นมาทดสอบโซน 1,980 ดอลลาร์ มีโอกาสไปต่อได้อีก เนื่องจากแนวต้านนี้ถูกทดสอบมาแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมาและเป็นโซนวัดใจที่สำคัญ

ขณะที่ โซนแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 1,940-1,930 ดอลลาร์ และ 1,910-1,900 ดอลลาร์ สัปดาห์นี้รอดูว่าราคาจะปรับฐานกลับลงมาถึงแนวรับข้างต้นหรือไม่ รอจังหวะสัญญาณกลับตัว แล้วพิจารณาเข้าซื้ออีกครั้งเพื่อเล่นตามแนวโน้มขาขึ้นต่อไป

ขณะที่ ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

แนวโน้มราคาทองคำ spot คาดเคลื่อนไหว sideways down เนื่องจากสัปดาห์นี้นักลงทุนรอดูการประชุมเฟด

ระยะสั้นทองคำมีแนวรับที่ 1,950 ดอลลาร์ และ 1,940 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,970 ดอลลาร์ และ 1,980 ดอลลาร์

ด้าน T.D.C. Gold มองว่า

ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งเมื่อคืนวันศุกร์ ถึงแม้จะยังไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ ๆ เข้ามา

ในสัปดาห์นี้จะเริ่มมีการ rebalance หุ้นบางตัว อย่างเช่น Microsoft และ NVIDIA ซึ่งอาจจะทำให้ราคามีความผันผวนมากกว่าปกติ

ขณะที่ Bond Yield ยังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และค่าเงินดอลลาร์เริ่มแข็งค่าขึ้นอีกครั้งหนึ่ง จะเป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำประกอบกับราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านไปได้ จึงยังมองแนวรับบริเวณ 1,940 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ GCAP Gold แนะกลยุทธ์การลงทุนวันนี้

ราคาทองคำอ่อนตัวลงจากแรงขายทำกำไร แต่มองเป็นการย่อเพื่อสะสมกำลังพร้อมดีดตัวขึ้นต่อ ให้แนวรับที่ 1,952/1,947 และ 1,942 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,969/1,974 และ 1,979 ดอลลาร์

- Advertisement -