สถานการณ์ราคาทองคำในปัจจุบันพุ่งที่ทะยานอย่างร้อนแรง สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดทั่วโลก

โดย GoldAround ได้รับเกียรติจาก คุณจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ มาให้ความเห็นถึงปรากฏการณ์ “ตื่นทอง” ครั้งนี้ว่า

สภาวะ “ตื่นทองทั่วโลก” ดันราคาทะลุเพดาน !

ทองคำไทยอาจถึง 70,000 บาท เตือน นลท.ทองคำ ระวังการผันผวน

สถานการณ์ในขณะนี้ ถือเป็นสภาวะที่ไม่ปกติ และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิตของการทำธุรกิจทองคำที่ผ่านมา

คุณจิตติฯ กล่าวว่า ราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่มีการปรับขึ้นสูงสุดถึง 1,600 บาท จากการปรับราคาภายในครั้งเดียว (ราคาเปิดตลาดเมื่อวันที่ 17 ต.ค.2568) และในบางวันยังมีราคาที่ผันผวนปรับขึ้นลงมากถึง 42 ครั้ง (วันที่ 10 ต.ค.2568) ถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

โดยมองว่า การขึ้นครั้งนี้มาจากความไม่เชื่อมั่นในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ของหลายประเทศ ซึ่งทำให้เกิดกระแส “ตื่นทองทั่วโลก” ทั้งประชาชนและธนาคารกลาง ต่างหันมาหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างทองคำ

สิ่งที่น่าแปลกใจในครั้งนี้คือ การขึ้นของราคาทองคำสวนทางกับดอลลาร์ โดยทั้งทองคำและดอลลาร์ต่างก็แข็งค่าขึ้นพร้อมกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติ

คุณจิตติฯ วิเคราะห์ว่า แม้จะมีปัจจัยพื้นฐานที่หนุนให้ราคาทองขึ้นอยู่แล้ว แต่ส่วนหนึ่งที่ดันให้ราคาทองคำพุ่งแรงผิดปกติในรอบนี้ ก็คือ แรงเก็งกำไรจาก “กองทุน” ที่เข้ามาซื้อขายเพื่อเก็งกำไรและถือกระแสนี้ร่วมด้วย

คาดการณ์ราคาและคำแนะนำสำหรับนักลงทุน

คุณจิตติฯ ประเมินว่า หากธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ จะทำให้ราคาทองคำยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ

โดยราคาทองคำ gold spot มีโอกาสที่จะขยับขึ้นไปได้ถึง 4,500 ดอลลาร์ ได้

ส่วนราคาทองคำในประเทศ หาก FED ปรับลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง คาดว่าราคาทองคำไทยมีโอกาสที่จะขยับเข้าใกล้ 70,000 บาท

ทั้งนี้ คุณจิตติฯ แนะนำนักลงทุนว่า คนที่ใช้เงินเย็นในการลงทุน หรือกลุ่มลงทุนระยะยาว หากเป็นการลงทุนด้วยการซื้อทองคำจริง ๆ ยังสามารถลงทุนได้ และคาดว่าราคายังขึ้นต่อไปได้ โดยหากราคาปรับลงมา ใช้เวลาไม่น่านก็จะดีดกลับไป ยกเว้นจะเกิดเหตุการณ์เหนือความคาดหมาย

ส่วนกลุ่มนักลงทุน gold futures หรือ ซื้อขายสัญญาล่วงหน้า โดยเฉพาะนักลงทุนที่ใช้มาร์จิ้น ซึ่งมีการจ่ายเพียง 5-10% ของมูลค่า และหวังกำไรมาก ๆ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากตลาดทองคำในช่วงนี้ปรับขึ้นแรงและยังไม่เคยมีการปรับฐานที่ชัดเจน

ร้านทองต้องปรับตัว เน้นขาย “ทองคำแท่ง” และทองคำขนาดเล็ก

นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวเพิ่มเติมถึงสถานการณ์ของผู้ประกอบการร้านทองคำว่า ตั้งแต่ราคาขึ้นมาถึง 50,000 กว่าบาท ปริมาณการค้าทองรูปพรรณได้ลดลงไปมาก จนกระทั่งราคามาถึงเกือบ 68,000 บาท ยอดขายทองรูปพรรณก็แทบจะหายไปเลย เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าจะซื้อทองคำแท่ง โดยทองรูปพรรณขายได้น้อยมาก

ร้านทองจึงต้องปรับตัวมาเน้นขายทองคำแท่ง และขายทองคำขนาดเล็ก ตั้งแต่ 0.3 กรัม หรือ 1 กรัม 1 สลึง และ 2 สลึง เพื่อตอบรับ “การลงทุน ของลูกค้าในปัจจุบัน”

คุณจิตติฯ สรุปว่า ปรากฏการณ์ “ตื่นทอง” ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความผันผวนของตลาดการเงินโลก ทำให้ทองคำกลายเป็นแหล่งพักเงินสำคัญ แม้ว่าจะมีแรงเก็งกำไรเข้ามาร่วมด้วย แต่นักลงทุนที่ใช้เงินเย็นก็ยังสามารถถือครองได้ในระยะยาว

ติดตาม ราคาทองคำประจำวัน ได้ที่เว็บไซต์ สมาคมค้าทองคำ

รับชมคลิป