gold spot ยังน่าห่วง แม้จะยืน $3,240 ได้ แต่แรงหนุนเริ่มลด – รอดู FED จะลดดอกเบี้ยหรือไม่ ด้านทองคำไทยอาการหนักกว่า หลุด 51,000 บาท แล้ว

คุณภัทริน วชิรคพรรณ Chief Operation Officer บจ.เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ กล่าวกับ GoldAround ว่า

ภาพรวมการเคลื่อนไหวราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมายังคงปรับฐานต่อเนื่อง โดยราคาลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ 3,202 ดอลลาร์ ก่อนจะมาปิดตลาดที่ 3,240 ดอลลาร์

โดยรวมในรายสัปดาห์ยังปิดตลาดลดลง 78 ดอลลาร์ หากนับรวมกับสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ gold spot พักฐานลงมาแล้วร่วม 100 ดอลลาร์

แต่หากมองจากจุด ATH ที่ 3,500 ดอลลาร์ ราคาทองคำ gold spot ลงมาแล้ว 300 ดอลลาร์ ท่ามกลางแรงขายที่ยังคงมีออกมาอย่างต่อเนื่อง

ราคาทองคำได้แรงกดดันจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น ขณะที่การเจรจาเรื่องกำแพงภาษีระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้าสำคัญหลายประเทศก็เริ่มที่จะเห็นผลมากขึ้น ทำให้เงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่ายืนเหนือระดับ 100 ได้อีกครั้ง

ขณะที่ วันศุกร์ (2 พ.ค.) ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก โดยทำสถิติปิดตลาดแดนบวกติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่ง

โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน เม.ย. ที่เพิ่มขึ้น 177,000 ตำแหน่ง สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 138,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.2% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ การปรับขึ้นมาของตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน เม.ย. ต้องมาดูว่า ที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐจะมีมติเกี่ยวกับนโยบายดอกเบี้ยในการประชุม เดือน พ.ค. ที่จะมีในช่วงดึกคืนวันพุธ (ตามเวลาในประเทศไทย) อย่างไร

เพราะก่อนหน้านี้ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาไม่สู้ดี และจาก FED WATCH TOOL ชี้ว่า FED น่าจะยังคงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และอาจจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุม เดือน มิ.ย.

แต่ทว่า ปธน.ทรัมป์ มองเศรษฐกิจของสหรัฐกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน และมั่นใจว่าจะกลับมาแข็งแกร่งในเร็ว ๆ นี้ พร้อมเรียกร้องให้เฟดลดดอกเบี้ย

ทำให้ต้องมาดูว่าเฟดจะเดินตามคำร้องขอของ ปธน.ทรัมป์ หรือไม่ และต้องรอดูการแถลง ของ ปธ.เฟดในช่วงหลังการประชุมว่า นโยบายดอกเบี้ยของเฟดในอนาคตจะเป็นอย่างไร

มาดูมุมมองทางเทคนิค

ทิศทาง gold spot ได้ปรับตัวลงต่อเนื่องอีกสัปดาห์ ภาพรวมยังคงอยู่ในช่วงปรับฐาน ทั้งนี้ ให้โซนแนวต้านสำคัญที่ 3,270-3,290 ดอลลาร์ และ 3,330-3,350 ดอลลาร์ หากราคารีบาวน์กลับขึ้นมาถึง อาจพิจารณาขายเพื่อทำกำไร และรอดูสถานการณ์ต่อไป

ส่วนโซนแนวรับสำคัญอยู่ที่ 3,170-3,150 ดอลลาร์ และ 3,110-3,090 ดอลลาร์ หากสัปดาห์นี้ราคาปรับลงต่อ มีโอกาสลงไปทดสอบลึกถึงแนวรับดังกล่าว ซึ่งถือเป็นโซนแนวรับที่สำคัญและมีโอกาสรีบาวน์ค่อนข้างสูง

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

สัปดาห์นี้นอกจากรอฟังผลการประชุม FOMC และการแถลงของ ปธ.เฟด ในช่วงดึกคืนวันพุธแล้ว ยังคงต้องติดตามความคืบหน้าการเจรจาเรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า

รวมถึงต้องรอดูว่าหลังจากที่ประเทศจีนจะกลับมาเริ่มทำการอีกครั้ง หลังหยุดในเทศกาลวันแรงงานวันที่ 1-5 พ.ค. แรงซื้อทองคำจะกลับมาหรือไม่

นอกจากนั้น ในวันพฤหัสยังต้องติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษด้วย

ส่วนราคาทองคำไทย

ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงไปบาทละ 1,500 บาท ทั้งนี้ ราคาทองคำไทยได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากเงินบาทที่กลับมาแข็งค่า

โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทผันผวนแรงกรอบ 33.74-33.06 บาทต่อดอลลาร์ แม้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ลงสู่ระดับ 1.75% ต่อปีก็ตาม

ทำให้ราคาทองคำแท่งในประเทศ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (3 พ.ค.) ราคาที่ สมาคมค้าทองคำ ประกาศออกมาจะลดลงอีก 250 บาท ราคาขายออกลงแตะ 50,850 บาท ส่วนราคารับซื้ออยู่ที่ 50,750 บาท คำนวณจากค่าเงินบาทที่ 33.13 บาทต่อดอลลาร์

ส่วนสัปดาห์นี้ ราคาทองคำไทย มีแนวรับที่ 50,200-50,000 บาท และ 49,600-49,500 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 51,400-51,500 บาท และ 51,900-52,000 บาท

ทั้งนี้ นักลงทุนระยะกลางและระยะยาว อาจจะเริ่มทยอยซื้อสะสมเพิ่มเติมได้ แถวราคาปิดเมื่อวันเสาร์ และเผื่อเงินทุนไว้ซื้อสะสมหากราคายังลงต่อที่ 50,200-50,300 บาท แต่หากว่าราคาทองคำ gold spot ยังปรับลดลงต่อและเงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่อง ก็อาจจะเห็นราคาทองคำไทยหลุด 50,000 บาท ได้

แต่ยังมองว่า ปัจจัยที่หนุนราคาทองคำยังคงอยู่ แม้ว่าสงครามการค้าดูเหมือนจะมีท่าทีที่ผ่อนคลาย และก็ยังมีความไม่แน่นอนสูงมาก อาจจะเกิดการพลิกผันได้ตลอดเวลา

นอกจากนั้น คาดว่าราคาทองคำยังได้แรงหนุนจากการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด ที่คาดว่าจะเริ่มต้นใน เดือน มิ.ย. ที่จะถึงนี้

รับชมคลิป