- Advertisement -

แนะเตรียมปรับกลยุทธ์ลงทุนทองคำ หลัง 2 ปัจจัยหลักที่ดันราคาพุ่งเริ่มชะลอตัว gold spot อย่าหลุด $2,600 อาจลงต่อแรง

คุณภัทริน วชิรคพรรณ Chief Operation Officer บจ.เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ กล่าวกับ Gold Around ว่า

สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มี 2 ประเด็นใหญ่ที่นักลงทุนเฝ้าติดตาม คือ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันพุธ

ซึ่งนายโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะไปได้ และทำให้นักลงทุนกังวลว่ามาตรการต่าง ๆ ของนายทรัมป์จะเป็นปัจจัยหนุนเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าและอาจะส่งผลให้เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น

ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทำให้ราคาทองคำ gold spot ปรับลดลงแรงหลุดแนวรับ 2,700 ดอลลาร์ ลงมาแตะจุดต่ำสุดที่ 2,643 ดอลลาร์

- Advertisement -

อย่างไรก็ดี ในวันถัดมาก็มีการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งที่ประชุมมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมตามการคาดการณ์ของตลาด

ทำให้ราคาทองคำ gold spot ฟื้นตัวกลับมา และพยายามจะกลับมายืนเหนือ 2,700 ดอลลาร์ แต่ทำได้ก่อนจะมาปิดสัปดาห์ที่ 2,684 ดอลลาร์ โดยรวมสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาปรับลดลงไป 52 ดอลลาร์

อย่างไรก็ดี ยังมีประเด็นต่อเนื่องหลังการประชุม FOMC ก็คือ การให้สัมภาษณ์ของ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งดูเหมือนว่าที่ผ่านมาจะไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ มากนัก โดยประธานเฟดยืนยันว่า

“จะไม่ลาออกหาก โดนัลด์ ทรัมป์ มีคำสั่งไล่ออก”

พร้อมชี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการปลดประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ และชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของทรัมป์จะไม่ส่งผลโดยตรงต่อนโยบายการเงินของเฟด

- Advertisement -

อย่างไรก็ตาม ประธานเฟดเตือนว่า การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในด้านการบริหารของ “ทรัมป์” อาจมีผลทำให้นโยบายของเฟดเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เฟดพยายามเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย

คุณภัทรินฯ ระบุว่า หลังจากนี้ต้องมาติดตามนโยบายของ “โดนัลด์ ทรัมป์” อย่างใกล้ชิดว่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงในด้านใดบ้าง โดยเฉพาะเรื่องปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในจุดต่าง ๆ ที่เป็นปัจจัยหนุนทองคำให้สูงขึ้นแรง

นอกจากนั้น ต้องติดตามผลจากนโยบายเศรษฐกิจของ “ทรัมป์ “ ว่าจะทำให้เฟดจะต้องมีการปรับแผนเรื่องนโยบายการลดดอกเบี้ย ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหลังที่หนุนราคาทองคำหรือไม่

การเปลี่ยนแปลงทั้ง 2 เรื่อง อาจทำให้ราคาทองคำลดความร้อนแรงในการปรับขึ้นในระยะถัดไปได้ และอาจจะมีการพักฐานลงมาแรงหากหลุด 2,640 และ 2,600 ดอลลาร์ ที่สำคัญต้องมาดูว่าที่ระดับราคา 2,790 ดอลลาร์ จะเป็นจุดสูงสุดในการปรับขึ้นรอบนี้หรือไม่

ภาพรวมทางเทคนิคราคาทองคำ gold spot มีการตอบสนองในเชิงลบต่อผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ

โดยตลาดมีแรงเทขาย โดยเฉพาะในฝั่งตลาดสัญญาซื้อ-ขายล่วงหน้า ที่เริ่มลดการถือครองสัญญาฝั่งซื้อลงมาได้สักระยะแล้ว ให้ระวังการปรับฐานต่อเนื่องหากราคาไม่สามารถยืนเหนือ 2,700 ดอลลาร์ได้

โดยสัปดาห์นี้ (11-15 พ.ย.) รอติดตามผลตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ และแถลงการณ์จากประธานเฟดในช่วงกลางสัปดาห์

โดยเล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ ให้โซนแนวรับสำคัญที่ 2,645-2,635 ดอลลาร์ และ 2,600-2,590 ดอลลาร์ อาจพิจารณาเข้าซื้อเพื่อเล่นรีบาวน์ระยะสั้น หากมีสัญญาณกลับตัวในโซนดังกล่าว

ส่วนโซนแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 2,700-2,710 ดอลลาร์ และ 2,720-2,725 ดอลลาร์ ให้พิจารณาขายทำกำไรหากราคารีบาวน์ขึ้นไปถึงโซนดังกล่าวเพื่อลดความเสี่ยงลง

ส่วนราคาราคาทองคำในประเทศ

ที่ สมาคมค้าทองคำ ประกาศเมื่อวันเสาร์ที่ 9 พ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 150 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 43,500 บาท ราคารับซื้อ 43,400 บาท คำนวนจากค่าเงินบาท 34.23 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้ แม้ว่าราคาทองคำ gold spot มีแนวโน้มจะพักตัวลงแรง แต่ทว่าราคาทองคำไทยยังได้เงินบาทอ่อนค่ามาพยุงไว้ ทำให้ราคาปรับลดในกรอบจำกัด

ทั้งนี้ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ ให้แนวต้านราคาทองคำไทยที่ 43,600-43,700 บาท และ 43,900-44,000 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 43,100-43,000 บาท และ 42,700-42,500 บาท

รับชมคลิป

- Advertisement -