Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 6 พ.ย.67 GoldAround

- Advertisement -

969

- Advertisement -

สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 6 พ.ย.67

ลุ้น..“ทรัมป์- แฮร์ริส” ใครจะขึ้นเป็นปธน.สหรัฐฯ gold spot ยังขยับในกรอบ $2,730-50 แต่ทองไทยบวกแรงเช้านี้ทะลุ 44,000 บาทอีกรอบ

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

ราคาทองคำไทย วันนี้ (6 พ.ย.) สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวัน เพิ่มขึ้น 300 บาท

ก่อนอีกครึ่งชั่วโมงถัดมาจะปรับเพิ่มอีก 50 บาท ทำให้ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 09.30 น.อยู่ที่ 44,000 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,900 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 44,500 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,115.04 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.87 บาทต่อดอลลาร์

- Advertisement -

ทั้งนี้ ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

แม้ราคาทองคำแท่งจะปรับตัวลงเล็กน้อย แต่คาดว่าราคาทองคำแท่งจะชะลอการปรับตัวลง ซึ่งนักลงทุนจับตาผลการเลือกตั้งสหรัฐ ทั้งนี้อาจจะสร้างความผันผวนของราคาทองคำแท่งได้

หากนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้น้อยสามารถชะลอการลงทุนไปก่อน หรือรอเข้าซื้อทองคำรอบใหม่ แถว 43,550 และ 43,400 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 43,900 และ 44,100 บาท

ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ( 5 พ.ย.) ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย โดยปิดตลาดที่ 2,743 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6 ดอลลาร์ หลังจากก่อนหน้านี้มีแรงเทขายทำกำไรก่อนรู้ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ

ทั้งนี้นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ตึงเครียดด้านการเมืองในสหรัฐฯ หลังจากโพลล่าสุด (ช่วงการเริ่มต้นนับคะแนน) บ่งชี้ว่าคะแนนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน และนางคามาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต สูสีกันอย่างมาก

- Advertisement -

มีรายงานว่านายทรัมป์กล่าวหลังเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งว่า ถ้าแพ้เลือกตั้งครั้งนี้แต่หากเป็นการเลือกตั้งที่ยุติธรรมตนก็จะเป็นคนแรกที่ยอมรับและคิดว่าจนถึงตอนนี้มันยุติธรรม พร้อมกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นครั้งสุดท้ายไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ก็ตาม

ทั้งนี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงราว 1-2% ในสัปดาห์นี้ ถ้าหากนางคามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ถ้านายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ก็จะทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างมาก

มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทยทาง Shining Gold มองว่า

ราคาทองคำพยายามเลี้ยงตัว Sideway ออกด้านข้างจาก 2,725 ไปแตะ 2,742 ดอลลาร์อยู่บ่อยครั้งแล้วถูกเทขาย บ้างก็เด้งขึ้นไป 2,750 ดอลลาร์ แล้วถูกเทขาย แต่ในที่สุดก็สามารถกลับมาปิดบวกเหนือ 2,735 ดอลลาร์ได้

เช้านี้มีแรงซื้อเข้ามาเบา ๆ เพื่อรอผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ที่จะทยอยประกาศจริงตามรัฐต่างๆ ทั้งนี้การเลือกตั้งสหรัฐที่มาส่วนใหญ่จะใช้เวลาหลายวันในการทราบผลมีเพียงช่วงปี 2020 ใช้เวลา 4 วัน และในสมัยของ “จอร์ช บุช” ใช้เวลาถึง 36 วันเลยทีเดียว

ส่วนความเสี่ยงทางเทคนิคคือแนวต้านที่เป็นบริเวณกด 2,755 ดอลลาร์ หากทดสอบแล้วไม่ผ่านบ่อย ๆ ถือเป็นความเสี่ยง แต่หากทดสอบแล้วสามารถผ่านได้โดยง่ายก็ยังต้องลุ้นแนวต้านกดตัวรายสัปดาห์เป็นระยะ ๆ

กลยุทธ์การลงทุนเหมาะสำหรับนักลงทุนที่เข้าตามเทคนิค โดยยังไม่คำนึงผลลัพธ์ของข่าว รอราคาย่อตัวให้ Open Long ที่ 2,736 และ2,721 ดอลลาร์ เคร่งครัด SL ที่ 2,715 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,752/2,761 และ2,771 ดอลลาร์

ด้าน SCT Gold มองภาพรวมว่า

หากราคาทองคำยืน 2,730 ดอลลาร์ ได้มีลุ้นรีบาวด์สั้น ไปแถว 2,750-2,770 ดอลลาร์ วันนี้จับตาการสวิงของราคา แนะย่อซื้อขึ้นขายไปก่อน จนกว่าจะเห็นผลเลือกตั้งชัดเจนค่อยเทรดตามแนวโน้ม

อย่างไรก็ตามคืนพรุ่งนี้ยังมีตัวแปรคือการประชุม FOMC และการแถลงชอง ปธ.เฟด เกี่ยวกับงนโยบายดอกเบี้ยในปลายปีนี้ ซึ่งต้องระวังแรงเทขายทองคำ เพราะอาจจะไม่ได้ลดดอกเบี้ยมากเหมือนเดือนก่อน

กลยุทธ์แนะขายถ้าราคาดีดตัวแรงแถว 2,760-2,780 ดอลลาร์ ราคาทองจะเป็นขาขึ้นข้าม 2,800 ดอลลาร์ ถ้าราคาปิดเหนือ 2,780 ดอลลาร์ขึ้นไป

ขณะที่ ARR Goldtrading มองว่า

นักลงทุนยังคงจับตารอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะรู้ผลในช่วงหัวค่ำวันนี้ตามเวลาประเทศไทย ราคาทองคำ gold spot จึงมีโอกาสแกว่งตัวออกไปทางด้านข้างทั้งวัน ซึ่งสามารถเก็งกำไรระยะสั้นได้

นักลงทุนพิจารณารอซื้อที่แนวรับ ที่ 2,730/2,720 และ 2,710 ดอลลาร์ และขายทำกำไรเมื่อราคาเข้าใกล้แนวต้าน 2,745/2,750 และ 2,760 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

ให้แนวรับรายวันที่ 2,712 และ 2,700 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,762 และ 2,774 ดอลลาร์

นอกจากนั้นนักลงทุนยังจับตาการผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ วันนี้แล้ว ในวันพรุ่งนี้(7 พ.ย.)ต้องรอดูผลประชุม FOMC ด้วย ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมครั้งนี้ แต่นักลงทุนรอฟังถ้อยแถลงของปธ.เฟด เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.และนปีหน้า หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะหลังออกมาค่อนข้างดี

รับชมคลิป

- Advertisement -

- Advertisement -

Comments are closed.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More