สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 5 พ.ย.67
gold spot แกว่งตัวกรอบแคบ รอผลเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐที่จะเริ่มวันนี้ ส่วนทองไทยปรับลดลงแตะ 43,650 บาท
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
ราคาทองคำไทย วันนี้ (5 พ.ย.) สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวัน ลดลง 100 บาท
และอีกครึ่งชั่วโมงถัดมาจะปรับลดลงอีก 50 บาท ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.00 น. อยู่ที่ 43,650 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,550 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 44,150 บาท ส่วนราคารับซื้อ 42,766.36 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.78 บาทต่อดอลลาร์
เงินบาทเปิดเช้านี้อ่อนค่าลงจากปิดตลาดวานนี้เล็กน้อย โดยเงินบาทวันนี้ มีแนวโน้มแกว่งตัว Sideways เนื่องจากนักลงทุนต่างรอลุ้นผลการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ ซึ่งอาจจะรู้ผลการ เลือกตั้งได้อย่างเร็วสุดในช่วงบ่ายของวันที่ 6 พ.ย. ทำให้นักลงทุนอาจยังไม่รีบปรับสถานะถือครองสินทรัพย์ที่ชัดเจน จนกว่าจะรู้ผลการเลือกตั้ง
ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงในตลาด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสหรัฐฯ ความไม่แน่นอนของ สถานการณ์ในตะวันออกกลาง รวมถึงการปรับมุมมองต่อแนวโน้มนโยบายการเงินของบรรดาธนาคารกลาง ทำให้คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.65-33.90 บาท/ดอลลาร์
ทั้งนี้ SCT Gold มองว่า
ราคาทองคำไทยกำลังเคลื่อนที่ในทิศทางไซด์เวย์ (Sideways) โดยมีแนวรับสำคัญอยู่ที่บริเวณ 43,500 บาท และแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 44,000 บาท และ 44,500 บาท หากราคายังอยู่ในกรอบนี้ การซื้อขายในกรอบอาจเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจสำหรับนักเทรดที่ต้องการทำกำไรในระยะสั้น
ในกรณีที่ราคาทะลุแนวต้าน 44,500 บาทขึ้นไป จะเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ระดับ 45,000 บาท แต่หากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านนี้ได้และกลับลงมาต่ำกว่าแนวรับที่ 43,500 บาท อาจมีแรงขายต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้ราคาเคลื่อนไหวลงสู่แนวรับถัดไปที่บริเวณ 43,000 บาท
กลยุทธ์การเทรดง่าย ๆ ที่สามารถใช้ในช่วงนี้คือการซื้อขายในกรอบ โดยเมื่อราคาลงมาทดสอบแนวรับที่ 43,500 บาทและไม่หลุดออกจากกรอบ
ควรพิจารณาเข้าซื้อเพื่อทำกำไรในระยะสั้น และเมื่อราคาขยับเข้าใกล้แนวต้านที่ 44,500 บาท ควรพิจารณาขายทำกำไร หากราคาเกิดการทะลุออกนอกกรอบ อาจต้องปรับกลยุทธ์ตามแนวโน้มที่เปลี่ยนไป
ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ ( 4 พ.ย.) เคลื่อนไหวในกรอบแคบ
ปิดตลาดทรงตัวแถว 2,736 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนรอดูผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ (5 พ.ย.) ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า การนับคะแนนเลือกตั้งอาจใช้เวลาหลายวันก่อนที่จะมีการประกาศชื่อผู้ชนะ เช่นเดียวกับการเลือกตั้งในปี 2563
โดยโพลหลายสำนักบ่งชี้ว่าคะแนนนิยมของคามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต และโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันยังสูสีกันอย่างมาก
นอกจากนั้นนักลงทุนยังจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 6-7 พ.ย.นี้ ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมครั้งนี้ รวมทั้งให้น้ำหนักกว่า 80% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.
วันนี้นอกจากติดตามการเลือกตั้งสหรัฐ คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.ย และดัชนี PMI ภาคบริการเดือนต.ค.โดย ISM
มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง YLG Bullion มองว่า
แรงขายสลับเข้ามากดราคาทองคำยังคงเพิ่มขึ้น ระยะสั้นหากราคาไม่สามารถทรงตัวเหนือแนวต้านโซน 2,748-2,762 ดอลลาร์ จะทำให้ระยะสั้นราคามีแนวโน้มราคาปรับตัวลงช่วงสั้นสู่แนวรับบริเวณ 2,717-2,709 ดอลลาร์
แนะนำเสี่ยงเปิดสถานะขาย หากราคาไม่ผ่านโซนแนวต้านดังกล่าว ตัดขาดทุนหากยืนเหนือแนวต้านโซน 2,790 ดอลลาร์ สำหรับการปิดสถานะขายทำกำไร อาจพิจารณาดูบริเวณแนวรับดังกล่าว เน้นทำกำไรระยะสั้นเพื่อลดความเสี่ยง
ด้าน T.D.C. Gold มองว่า
นักลงทุนต่างจับตามองการเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐ ซึ่งจะเริ่มในวันนี้เป็นวันแรก ผลสำรวจล่าสุดระหว่างอดีต ปธน.ทรัมป์ และ นางแฮร์ริส ยังคงสูสี ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกว่า 2% จาก OPEC+ ที่ไม่ได้ส่งสัญญาณการเลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตออกไปก่อน
สำหรับราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มของการพักตัวชึมลงด้านล่าง ต้องติดตามการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐ ไปจนถึงทิศทางดอกเบี้ยของ Fed ในช่วงกลางสัปดาห์นี้
ขณะที่ ARR Goldtrading มองว่า
ราคาทองคำ gold spot เข้าสู่ช่วงแกว่งตัวแคบ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่กำลังจะมีขึ้นในวันนี้ ซึ่งนโยบายต่างประเทศใหม่จะมีส่วนเกี่ยวเนื่องกับความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับดี ปริมาณการซื้อขายจึงเริ่มลดลง และนักลงทุนบางส่วนเริ่มขายทำกำไร โดย ARR Goldtrading ให้แนวรับ ที่ 2,730/2,720 และ 2,710 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,745/2,750 และ 2,760 ดอลลาร์
ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศไทยได้แรงฉุดจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น นักลงทุนพิจารณาทยอยซื้อสะสมที่ระดับราคา 43,600 – 43,500 บาท
ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์
ให้แนวรับรายวัน ที่ 2,724 และ 2,712 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 2,750 และ 2,762 ดอลลาร์
รับชมคลิป
Comments are closed.