เกาะติดทิศทางราคาทองคำวันนี้ 11 ต.ค.67
สัมภาษณ์พิเศษ คุณวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บจ.วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส (YLG)
ทองคำไทย-เทศ ยังเคลื่อนไหวผันผวน มีแรงกดดันจากตัวเลขศก.-นโยบาย FED แต่หากสงครามชยายวงกว้างพร้อมทำ ATH
ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
คุณ วรุต รุ่งขํา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด กล่าวกับ GoldAroundว่า
ราคาทองคำวานนี้ปิดบวกขึ้นมา 22.28 ดอลลาร์ แม้ว่าจะมีจังหวะที่ราคาหลุดทำ New Low จากวันก่อนหน้า ขานรับตัวเลขเงินเฟ้อ CPI เดือน ก.ย.สหรัฐฯ ออกมาที่ระดับ 2.4% สูงว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 2.3% แต่ยังลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 2.5%
ประกอบกับช่วงนี้จะเริ่มเห็นเจ้าหน้าที่เฟดบางคนออกมาส่งสัญญาณที่ไม่อยากจะให้เฟดปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤศจิกายน ถือว่าเป็นอีกปัจจัยที่กลับมากดดันราคาทองคำ ซึ่ง FED WATCH TOOL ยังบ่งชี้ว่าเฟดจะยังคงลดดอกเบี้ยในเดือนพฤศจิกายน 0.25% ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ และอีก 20 เปอร์เซ็นต์มองว่าจะไม่ลดดอกเบี้ย
หากว่าสัดส่วนเปอร์เซ็นต์การไม่ลดดอกเบี้ยได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะเป็นอีกปัจจัยกลับมากดดันให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวต่ำกว่า 2,600 ดอลลาร์ ก็เป็นได้ ดังนั้นยังต้องติดตามทั้งการออกมาให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่เฟด และเรื่องของตัวเลขเศรษฐกิจนระยะถัดไป
อย่างไรก็ดีแต่แรงหนุนสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำกลับมาบวกแรง ก็คือความกังวลในสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน หลังมีรายงานว่าคณะรัฐมนตรีความมั่นคงของอิสราเอลจะประชุมร่วมกันในวันนี้เพื่อลงมติต่อแผนการตอบโต้อิหร่าน หลังจากที่อิหร่านยิงขีปนาวุธ 200 ลูกโจมตีอิสราเอลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล โดยสหรัฐจะยังคงให้การสนับสนุนอิสราเอลด้านความมั่นคงต่อไป ทำให้หลายฝ่ายได้เพิ่มกังวลในสถานการณ์ความขัดแย้งที่อาจจะขยายวงกว้างมากขึ้น
มุมมองการลงทุน ทาง YLG มองว่าภาพรวมทองคำ gold spot ใน timefame รายสัปดาห์เป็นไซด์เวย์ดาวน์ เนื่องจากตั้งแต่สัปดาห์กลางเดือนกันยายนที่ผ่านมาที่ทองคำ gold spot ไปทำจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ หรือ all time high (ATH) ที่ 2,685 ดอลลาร์ และสัปดาห์ถัดมาได้ปรับลดระดับสูงสุดลงมา 2,677 ดอลลาร์ ขณะที่สัปดาห์ล่าสุดไปทำจุดสูงสุดแค่ 2,659 ดอลลาร์
ทำให้มองว่าการขยับขึ้นของราคาจะอยู่ในกรอบจำกัด ถ้าไม่ได้มีปัจจัยพื้นฐานหรือภาพของสงครามที่ขยายวงมากขึ้น ก็ไม่แนะนำให้ไล่ซื้อถ้าอยากจะซื้อ รอให้ราคาอ่อนตัวหรือย่อตัวลงมา
โดยมีแนวรับที่ 2,619 ดอลลาร์ และ 2,600 ดอลลาร์ เป็นรับสำคัญหรือเป็นกรอบด้านล่างของไซต์เวย์ดาวน์ แต่ถ้าไม่หลุดลงไปยังใช้กรอบแนวรับดังกล่าวในการเข้าซื้อ แต่เป็นการลงทุนสั้น หวังกำไรจากการฟื้นตัวของราคา
แนวต้านจะอยู่ที่ 2,652 และ 2,659 ดอลลาร์ ถ้าไม่ผ่านให้แบ่งขายก่อน แต่ถ้าผ่านไปได้ ก็อาจจะเป็นราคาทองคำแกว่งตัวในรูปแบบของไซต์เวย์ โดยมีแนวต้านถัดไปอยู่ที่ 2,666-2,669 ดอลลาร์ และ 2,685 ดอลลาร์
ส่วนจุดตัดขาดทุนอยู่ที่ 2,600 ดอลลาร์ หากหลุดลงไปอาจจะเห็นการพักฐานที่ค่อนข้างลึก โดยอาจจะลงไปแถว 2,549-2,523 ดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นการพักฐานรอบใหญ่ หลังการทำจุดสูงสุดในแต่ละรอบโดยอาจจะลงไปได้ถึง 130-160 ดอลลาร์ จากจุดสูงสุด
ราคาทองคำไทยมีกรอบแนวรับด้านล่างเป็นจุดซื้อที่ 41,300-41,000 บาท ถ้าหลุดลงไปใช้ระดับ 41,000 บาท เป็นจุดตัดขาดทุน
ส่วนแนวต้านจุดแรกอยู่ที่ 41,800 บาท ถ้าราคาไม่ผ่านให้แบ่งขายออกมาก่อน ถ้าผ่านไปได้อาจะเห็นราคาขึ้นไปแตะ 42,100 และ 42,350 บาท
ทั้งนี้หากราคา gold spot ขึ้นไปแตะ 2,685 ดอลลาร์ และคำนวณจากเงินบาท ณ ปัจจุบัน ราคาทองทำไทยจะอยู่ที่ 42,350 บาท ซึ่งเป็นจุดสูงสุดใหม่
ทั้งนี้มองว่าหากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ได้ขยายวงกว้าง มองว่าทั้งราคาทองคำไทย และราคาทองคำ gold spot พร้อมจะทำจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ (ATH) ได้ไม่ยาก
รับชมคลิป เกาะติดทิศทางราคาทองคำวันนี้
Comments are closed.