- Advertisement -

ราคาทองคำปิดตลาดร่วงหลุด 1,820 ดอลลาร์ หลังดัชนีดอลลาร์ และบอนด์ยีลด์พุ่งแรง แต่ในช่วงท้ายตลาดได้ตัวเลข Empire State Index ที่ออกมาแย่กว่าที่คาด มาหนุนทำให้ราคากลับมายืนเหนือ 1,810 ดอลลาร์ ได้ ด้านราคาทองคำในประเทศที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำ วันนี้บวกเพิ่ม 50 บาท

ราคาทองคำวานนี้ ปิดปรับตัวลดลง 5.67 ดอลลาร์ โดยในช่วงต้นของตลาดการซื้อขาย ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,822 ดอลลาร์ ก่อนที่จะได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจส่งสัญญาณในเชิงสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงินมากยิ่งขึ้นในการประชุมสัปดาห์หน้า

หนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี พุ่งขึ้นเหนือ 1% เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ต้นปี 2020 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.88% สูงสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่ ดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่าแตะ 95.832 สูงสุดในรอบสัปดาห์ที่

ปัจจัยดังกล่าว กดดันให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,805 ดอลลาร์ ก่อนที่ราคาทองคำจะฟื้นตัวหลังเฟดสาขานิวยอร์ก เผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) เดือน ม.ค. ร่วงลงมาแตะที่ -0.7 จากระดับ 31.9 ในเดือน ธ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 25.5 อย่างมาก ก่อนที่ราคาทองคำจะมาปิดตลาดที่ 1,813 ดอลลาร์

ทั้งนี้ YLG มองว่า ราคาทองคำพยายามเคลื่อนไหวเหนือแนวรับโซน 1,805-1,802 ดอลลาร์ หากยืนได้ แสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะสั้น ทำให้ประเมินว่าในระยะสั้น ยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบ แนวต้าน โซน 1,827-1,834 ดอลลาร์ ซึ่งหากผ่านได้ แนวต้านถัดไปนั้นอยู่ในบริเวณ 1,849 ดอลลาร์

ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงเช้าที่ผ่านมา ราคายังขยับกรอบแคบแนว 1,810 ดอลลาร์ ( ดูการกราฟเคลื่อนไหวราคาทองคำ )

ด้านราคาทองคำในประเทศ ที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำ เช้านี้เปิดตลาดบวก 50 บาท ทำให้ราคารับซื้อล่าสุดอยู่ที่ บาทละ 28,400 บาท ขณะที่ราคาขายออก อยู่ที่บาทละ 28,500 บาท ( ดูตารางราคาทองคำของสมาคมค้าทองคำ )

หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ ซื้อ-ขาย หรือ ลงทุน หรือ เป็นเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ และอาจจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และ หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น

- Advertisement -