- Advertisement -

เกาะติดทิศทางราคาทองคำรอบสัปดาห์ 1-5 พ.ค.66

พูดคุยกับ คุณวิโรสินี สดากร AISA ผจก.ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บจ.ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน

ทองคำกลับเข้าสู่โหมดเลือกทาง หากไม่ผ่าน $2,013 อาจพักฐานแรง จับตาปัญหา FRB ส่งผลต่อดอกเบี้ย FED

ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

.

- Advertisement -

รับชมคลิป เกาะติดทิศทางราคาทองคำรอบสัปดาห์ 1-5 พ.ค.66

คุณวิโรสินี สดากร ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บจ.ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน กล่าวกับ GoldAround ว่า

ตลาดทองคำในสัปดาห์หน้า เชื่อว่าปัจจัยพื้นฐานจะเป็นตัวนำปัจจัยทางเทคนิค โดยตลาดยังคงจับตาอยู่ 2 ประเด็นหลัก คือ

1.ปัญหาของ First Republic Bank (FRB) และ 2.การตัดสินใจของของ FED ว่าจะขึ้นดอกเบี้ย หรือ คงดอกเบี้ย ในการประชุม FOMC วันที่ 2-3 พ.ค.

ซึ่งทั้ง 2 ประเด็น จะมีผลสืบเนื่องกัน ขึ้นอยู่กับว่าปัญหาที่ 1 จะมีผลลัพธ์อย่างไร

- Advertisement -

เท่าที่ทราบกันดี FRB มีปัญหาเรื่องผู้ฝากเงิน ถอนเงินออกไปมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ทำให้รายงานผลประกอบการ Q1 ของ FRB พบว่าปริมาณเงินฝากลดลง 40.8% สู่ระดับ 1.045 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้หุ้น FRB ร่วงอย่างหนักถึง 49%

ทั้งนี้ แม้ทาง FRB จะมีการปรับโครงสร้างภายในใหม่ เช่น ลดพนักงงาน ลดเงินเดือน ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น แต่ก็ไม่เพียงพอ

ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า ทางบรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ หรือ FDIC ได้ขอให้ JPMorgan และ PNC Financial Services Group ส่งการเสนอราคาขั้นสุดท้าย สำหรับการซื้อสินทรัพย์ FRB ภายในวันอาทิตย์ (30 เม.ย.) นี้

หากการปิด Deal สามารถเจรจากันได้ จะเป็นการลดความเสี่ยงในตลาด ถือเป็นลบต่อราคาทองคำ แต่หากปิด Deal ซื้อกิจการหรือสินทรัพย์บางส่วนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องไม่ได้ ก็จะเป็นความเสี่ยงสนับสนุนทองเชิงบวก

ประเด็นที่ 2 คือ การประชุมเฟด ในวันที่ 2-3 พ.ค. เชื่อว่าเฟดจะสามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจได้ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย หรือ ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของ First Republic Bank เป็นสำคัญด้วย กล่าวคือ

1. หากมีธนาคารใหญ่กว่าเสนอซื้อสินทรัพย์บางส่วนของ FRB ให้มีสภาพคล่องเพียงพอที่จะไปต่อได้ หรือทางการยื่นมือเข้ามาช่วย เฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์

ซึ่งต้องมาดูว่า หากราคาทองคำวิ่งไม่ผ่าน 2,013 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ ก็ควรระวังการหลุดแนวฐาน 1,960 ดอลลาร์ หากหลุดลงมาจริง จะถือเป็นจังหวะให้นักลงทุนระยะกลางรอทยอยเข้าเก็บสะสมแถว 1,930 ดอลลาร์ เป็นจุดแรก หากว่ายังหลุดลงไปแตะ 1,915 ดอลลาร์ ต้องมีปัจจัยลบใหม่มาซ้ำเพิ่ม

2. หากไม่มีธนาคารใดสนใจซื้อสินเชื่อ หรือ สินทรัพย์ของ FRB และทางการสหรัฐฯ ไม่ยื่นมือเข้าช่วย ปัญหาอาจขยายวง จนเฟดอาจจะต้องชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ให้สังเกตต่อ หากราคาผ่าน 2,013 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ คนมีสถานะ long เก่า ๆ ให้ทยอยขายปิดกำไรออกมาให้ได้มากที่สุด ตามแนวต้าน 2,013 และ 2,024 และ 2,032 ดอลลาร์

“เมื่อดูทางเทคนิค จะเห็นได้ว่า แท่งเทียนกราฟรายเดือน เริ่มมีการทิ้งไส้ยาว แม้ว่าจะยังคงปิดตลาดในแดนบวก แต่ก็มีโอกาสที่จะพักฐานแรง ๆ ในช่วงเดือน พ.ค. และ มิ.ย. แต่ทั้งนี้ จะต้องรอดูสถานการณ์ข่าวในเรื่องต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ทั้งประเด็นที่ต้องตามในสัปดาห์หน้า ทั้งการประชุม FOMC ตัวเลขการจ้างงาน ปัญหา FRB รวมไปถึงยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในสัปดาห์ถัดไป โดยเฉพาะตัวเลข CPI ซึ่งมีโอกาสที่จะกลับมาปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันได้กลับมาบวกแรงอีกรอบ ทำให้โอกาสที่เฟดจะยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อในเดือน มิ.ย. ก็ยังมีความเป็นไปได้ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อราคาทองคำ” ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน กล่าว

ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุน จะมีการปรับเปลี่ยนจากช่วงที่ผ่านมา โดยหันมาตั้งรับ กับลดสถานะ long โดยหากทองคำเลือก Break 2,013 ดอลลาร์ ขึ้นไป พยายามลดสถานะ long ที่ 2,023 และ 2,032 ดอลลาร์ แต่หากปัจจัยข่าวทำให้ ราคา gold spot หลุด 1,960 ดอลลาร์ รอจังหวะเข้าสะสมแถว 1,930 และ 1,915 ดอลลาร์

ส่วนการลงทุนทองไทย จะลงทุนยากกว่าช่วงที่ผ่าน ๆ มา โดยต้องพิจารณาปัจจัยข่าวว่า เป็นไปตามสันนิษฐานข้อใด และต้องเลือกกลยุทธ์ให้เหมาะสม

กล่าวคือ หากราคาทองคำ Break 2,013 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ พยายามลดสถานะ long ขายปิดกำไรราคาไทยออกมาให้ได้มากที่สุด แถว 32,300 และ 32,400 บาท แต่หากราคา gold spot หลุดแนวรับล่าง 1,960 ดอลลาร์ ลงมา ให้นักลงทุนระยะกลางอาศัยจังหวะดังกล่าวเข้าทยอยซื้อสะสมแถว 31,750 และ 31,500 บาท

- Advertisement -