- Advertisement -

ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้

Gold Bullish +

ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย

ความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตภาคธนาคาร

Gold Bearish –

- Advertisement -

การเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟด

ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้

สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวลดลงทดสอบ 1,900 ดอลลาร์ จากการเปิดเผยตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐฯ บ่งชี้ถึงข้อมูลที่แข็งแกร่ง

โดยการจ้างงาน ADP สหรัฐฯ เดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 497,000 ตำแหน่ง แข็งแกร่งมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี  ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และ Bond yield เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อความกังวลว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยต่อ จึงเป็นแรงกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลง อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายสัปดาห์เริ่มมีแรงซื้อทองคำเข้ามา

ทั้งนี้ การเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟดนั้น ได้สร้างความกังวลของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ยังมีโอกาสอยู่ ขณะที่ล่าสุดผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี กับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี มีค่า -0.90 แสดงว่าผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี มีค่าน้อยกว่าอายุ 2 ปี ซึ่งจะทำให้ผลที่ตามนั้น เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเกิดปัญหาได้ โดยสถิติที่ผ่านมา ถ้าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐญฯ ระยะยาวมีค่าน้อยกว่าระยะสั้น จะทำให้มีโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยตามมาภายหลัง

- Advertisement -

ขณะที่ สัปดาห์นี้ยังคงต้องติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง จากการใช้นโยบายทางการเงินเข้มงวดของเฟด แม้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะเริ่มชะลอตัวลง แต่เงินเฟ้อในอีกหลายประเทศก็ยังคงมีปัญหา โดยเฉพาะสหภาพยุโรป อัตราเงินเฟ้อในยุโรปยังอยู่ระดับสูง และเร่งตัวขึ้นในเดือน มิ.ย. เป็นเพิ่มขึ้น 5.4% ต่อปีจาก 5.3% ในเดือน พ.ค. สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดเลยคืออาหาร ที่ยังคงอยู่สูงถึง

ระดับ 11.7% และอัตราเงินเฟ้อภาคบริการที่เพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบรายปี เป็นการดีดตัวขึ้นในระดับสูงสุดใหม่ เงินเฟ้อที่สูง ทำให้ ECB เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยแรงกว่าสหรัฐฯ ในปีนี้ จึงตามมาด้วยความกังวลด้านภาวะเศรษฐกิจถดถอย อย่างอังกฤษที่พึ่งมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยไปนั้น ปกติแล้วเงินสกุลจะแข็งค่า แต่ครั้งนี้การขึ้นดอกเบี้ย ทำให้มีแรงซื้อดอลลาร์มากขึ้น เพราะกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย

นอกจากนี้ ข้อตกลงธัญพืชในทะเลดำใกล้หมดอายุวันที่ 18 กรกรฎาคม นี้แล้ว และมีโอกาสความเป็นไปได้ว่าครั้งนี้ปูตินจะไม่ต่ออายุสัญญา เนื่องจากเริ่มมีสัญญาณตั้งแต่เมษายน มีอัตราการตรวจสอบเรือต่อวันลดลงอย่างต่อเนื่อง การตรวจสอบที่ช้าลงอย่างมาก อย่างบางลำก็ใช้เวลาตรวจสอบนานกว่า 3 เดือน และมีข้อจำกัดที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการตามข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกของรัสเซีย และการรุกรานทางด้านการทหาร หากปูตินไม่ต่ออายุ วิกฤตขาดแคลนอาหารจะกลับมาอีกครั้งหรือไม่? ซึ่งยูเครนใช้ท่าเรือทะเลดำในการส่งออกข้าวโพดและข้าวสาลีมากกว่า 32 ล้านตันภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว และราคาอาหารมีโอกาสพุ่งขึ้นอีกครั้งก็เป็นไปได้ จึงต้องมีแรงจูงใจข้อเสนอที่ทำให้ปูตินต่ออายุข้อตกลงดังกล่าว

ขณะที่สหภาพยุโรปกำลังพิจารณาข้อเสนอเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทสาขาธนาคารเพื่อการเกษตรของรัสเซีย เพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่ายการเงินทั่วโลกอีกครั้ง การเข้าถึงระบบ SWIFT เนื่องจากข้อเสนอดังกล่าวอาจจูงใจรัสเซียให้ต่ออายุข้อตกลงมากที่สุด

แนวโน้มราคาทองคำ spot คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,910-1,935 ดอลลาร์ ส่วนสัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน มิ.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน จากเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบรายปี จากเพิ่มขึ้น 4.0% เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน มิ.ย. ตลาดคาว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน จากลดลง 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายปี จากเพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบรายปี

นอกจากนี้ ติดตามการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด 12 เขต  (Beige Book)

สัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่  1,900 ดอลลาร์ และ 1,890 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,935 ดอลลาร์ และแนวต้าน 1,940 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 31,800 บาท และ 31,700 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 32,050 บาท และ 32,150 บาท

- Advertisement -