- Advertisement -

สรุปข่าว ราคาทองคำ วันนี้ 23 พ.ค.66 | GoldAround Podcast

เจรจาขยายเพดานหนี้ล่าสุด สหรัฐฯ ยังไร้ข้อสรุป แต่ gold spot ไหลลงต่อ ขยับทดสอบ $1,960 ทองไทยร่วงตามแต่ไม่มาก เงินบาทยังอ่อนค่า

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

.

.

- Advertisement -

รับชมคลิป สรุปข่าว ราคาทองคำ วันนี้ 23 พ.ค.66

ราคา gold spot วานนี้ (22 พ.ค.) กลับมาปิดตลาดในแดนลบ โดยลงมาแถว $1,971 รวม ๆ ลดลงไป $6

ในช่วงเช้าวันนี้ ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวแดนลบต่อเนื่อง โดยลงมาทดสอบที่ 1,960 ดอลลาร์ ทำให้ราคาทองคำ 96.5 เช้าวันนี้ (23 พ.ค.) สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกลดลง 100 บาท ราคาขายออกอยู่ที่ 32,150 บาท ราคารับซื้ออยู่ที่ 32,050 บาท คำนวณจากค่าเงินบาทที่ 34.61 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้ ราคาทองไทยยังได้เงินบาทอ่อนค่ามาอุ้มไว้ โดยเช้านี้เงินบาทเปิดตลาด 34.47 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่องจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.44 บาท/ดอลลาร์

โดยเงินบาทอ่อนค่าตามค่าเงินในภูมิภาคและตลาดโลก หลังดอลลาร์แข็งค่าจาก ความกังวลเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปเรียบร้อย

- Advertisement -

มีรายงานว่าการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้รอบใหม่ระหว่างประธานาธิบดี โจ ไบเดน และ นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้เสร็จสิ้นลงแล้วในช่วงเช้าที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย หลังทั้ง 2 ฝ่ายใช้เวลาพูดคุยร่วมชั่วโมง แต่สุดท้ายยังหาข้อสรุปร่วมกันไม่ได้

นาย แมคคาร์ธีฯ ระบุ การเจรจาเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และดีกว่าทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า อยากจะพูดคุยกับ ปธน.ไบเดนฯ ทุกๆ วันจนกว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ และทีมเจรจาที่ผู้นำทั้งสองฝ่ายแต่งตั้งจะเจรจาร่วมกันต่อไปหลังจากนี้

ขณะที่ ปธน.ไบเดนฯ ระบุว่า การเจรจาครั้งนี้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ โดยทั้งสองฝ่ายต่างมีจุดหมายเดียวกัน คือ จะต้องไม่เกิดการผิดนัดชำระหนี้

ทั้งนี้ ข้อสรุปที่ยังตกลงกันไม่ได้ คือ พรรครีพับลิกันไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอการปรับเปลี่ยนมาตรการภาษี แต่ต้องการให้ทำเนียบขาวปรับลดการใช้จ่ายเป็นเวลาหลายปี ในขณะที่พรรคเดโมแครตเสนอให้ปรับลดการใช้จ่ายแค่ระยะเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้น และต้องการให้รวมเพดานการใช้จ่ายด้านกลาโหมเอาไว้ในข้อตกลงนี้ด้วย

ขณะที่ นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้ส่งจดหมายเตือนถึงสภาคองเกรสเป็นฉบับที่ 3 ระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงที่กระทรวงการคลังจะไม่สามารถชำระหนี้ของรัฐบาลได้ หากไม่มีการขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ มูลค่า 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ ก่อนวันที่ 1 มิ.ย. นี้ ซึ่งจะผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ก่อนหน้านี้ นางเยลเลนฯ ย้ำเตือนหลายครั้งว่า หากสภาคองเกรสล้มเหลวในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ จะส่งผลให้เกิดหายนะทางเศรษฐกิจและการเงิน ต่อทั้งสหรัฐฯ และทั่วโลก พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมาสหรัฐฯ ได้รับบทเรียนว่าการประวิงเวลาจนถึงนาทีสุดท้าย ก่อนที่จะปรับเพิ่มเพดานหนี้ ได้บั่นทอนความเชื่อมั่นต่อภาคธุรกิจและกลุ่มผู้บริโภคอย่างรุนแรง นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ด้วย

ส่วนประเด็นเรื่องของการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟด เมื่อวานนี้ นาย เจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ ยังออกมาสนับสนุนให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% ในปีนี้ หากว่าเงินเฟ้อยังไม่ปรับตัวลง ทำให้ดัชนีดอลลาร์กลับมาแข็งค่าและกดดันราคาทองคำ

มาดูมุมมองการลงทุนทองคำของบริษัทค้าทองคำในประเทศ

ทาง ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

สัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำรายวันมีทิศทางขาลง หากไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,982-1,990 ดอลลาร์ อาจเกิดแรงขายออกมาอีกครั้ง ทั้งนี้ ติดตามประเด็นการเจรจาเพดานหนี้สหรัฐฯ หากมีความคืบหน้า หรือบรรลุข้อตกลงการเจรจากันได้ ก็จะส่งผลให้เกิดแรงเทขายออกมาได้

ระยะสั้น ทองคำมีแนวรับที่ 1,950 ดอลลาร์ และราคาทองคำมีแนวรับถัดไปที่ 1,934 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,982 ดอลลาร์ และ 1,990 ดอลลาร์

ขณะที่ SCT Gold มองว่า

ภาพรวมราคาทองคำยังคลุมเครือ เคลื่อนไหวแกว่งออกข้างในลักษณะพักฐาน ตลาดรอเล่นข่าวเจรจาหนี้เป็นหลัก กลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนระยะสั้น DAY TRADE เล่นไวสองหน้า ระยะกลางยาว ทยอยซื้อช่วงย่อเป็นหลัก คาดว่าเร็ว ๆ นี้ จะเห็นภาพทิศทางชัดเจนขึ้น

ทั้งนี้ gold spot มีแนวรับ 1,950 และ 1,930 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,990 และ 2,000 ดอลลาร์

ขณะที่ ทองคำแท่ง 96.5 % แนวรับ 31,950 และ 31,850 บาท แนวต้าน : 32,400 และ 32,500 บาท

ปิดท้ายที่ YLG Bullion แนะนำว่า

หากราคาทองคำทดสอบแนวต้าน 1,982-2,000 ดอลลาร์ ยังไม่สามารถยืนได้ อาจเกิดแรงขายกดดันให้ปรับตัวลงช่วงสั้นต่อ แนะนำเปิดสถานะขายเก็งกำไรระยะสั้น หากราคาดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านดังกล่าว (ตัดขาดทุนหากผ่าน 2,000 ดอลลาร์) และให้ทยอยปิดสถานะขายทำกำไรหากราคาอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,949-1,933 ดอลลาร์

คืนนี้ สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือน พ.ค. ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 50.0 และ 52.6 ตามลำดับ และยอดขายบ้านใหม่เดือน เม.ย. ตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 665,000 ยูนิต จาก 683,000 ยูนิต

- Advertisement -