- Advertisement -

ราคาทอง 24 พ.ค.66

ข่าวสารทองคำประจำวัน

ราคาทองคำในตลาดโลกปิดบวก 6 usd/oz ปิดที่ระดับ 1,975 usd/oz นักลงทุนเข้าซื้อทองคำท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาเพดานหนี้สหรัฐซึ่งยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้

หากทำเนียบขาวและสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ภายในวันที่ 1 มิ.ย. ก็จะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์นับเป็นปัจจัยบวกต่อทอง

นอกจากนี้ ราคาทองได้รับผลกระทบจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐซึ่งกล่าวหนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อนับเป็นปัจจัยลบทอง

- Advertisement -

ข้อมูลทางเทคนิคแนวโน้มราคาทองคำ

ล่าสุดเช้านี้ราคาทองคำเปิดตลาดไปที่ 1,975 usd/oz หรือประมาณเกือบ 32,300 บาท สำหรับราคาทองคำแท่ง 96.5% น้ำหนัก 1 บาท โดยเช้านี้ราคาทองมีสัญญาณปรับขึ้นในกรอบจำกัด ภาพรวมยังเคลื่อนไหวที่ระดับต่ำกว่า 1,986 usd/oz ยังบ่งบอกว่ายังอยู่ในแนวโน้มขาลง การย่อซื้อยังเสียเปรียบ เก็งกำไรได้ในระยะสั้นเท่านั้น

โดยมีจุดตัดขาดทุนอยู่ที่ 1943 usd/oz ทั้งนี้ขาขึ้นจะกลับมาได้เปรียบอีกครั้งหากกลับมายืนเหนือ 1,986 usd/oz หากเบรกผ่านแนะซื้อเพิ่มโดยมีเป้าถัดไปที่  1,993-2,000 usd/oz ทั้งนี้หากเบรคไม่ผ่านแนะขายทำกำไรบางส่วนก่อน

ราคาทองคำเมื่อวานนี้

High 1975 usd/oz Low 1954 usd/oz

- Advertisement -

กลยุทธการลงทุนทองคำ (Buy)

Gold Spot:     แนวรับ 1951/1943 usd/oz    แนวต้าน 1986/1993 usd/oz

ทองคำ96.5%:  แนวรับ 32,050/31,950 บาท  แนวต้าน 32,400/32,500 บาท

ทองคำ99.99%:แนวรับ 33,210 /33,110 บาท   แนวต้าน 33,580/33,680 บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน

ทิศทางค่าเงินบาทประจำวัน

เงินบาทเปิดตลาดอ่อนค่าที่ 34.62 บาทต่อดอลลาร์ จากปัจจัยเฟดมีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปัจจัยภายในประเทศอย่างความไม่แน่นอนของการจัดตั้งรัฐบาล มองกรอบเงินบาทวันนี้ 34.50-34.90 บาทต่อดอลลาร์ นับเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในประเทศ ขณะที่สกุลดอลลาร์สหรัฐ เปิดตลาดแข็งค่าที่ 103.42 ดอลลาร์สหรัฐ

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้

ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ

กองทุน SPDR (กองทุนที่ลงทุนในทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก)

ถือครอง 941.29 ตัน (ลดลง2.60 ตัน)

อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯล่าสุด

ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดอยู่ที่ระดับ 5.00-5.25% ซึ่งนักลงทุนให้น้ำหนัก 70.8% มีแนวโน้มที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมวันที่ 14 มิ.ย. และให้น้ำหนัก 29.2% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% อ้างอิงจาก CME GROUP

ขอขอบคุณ : บริษัท ออสสิริส จำกัด

- Advertisement -