Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 23 พ.ย.65 by YLG

- Advertisement -

781

- Advertisement -

คำแนะนำ       เปิดสถานะขาย $1,749-1,753

จุดทำกำไร    ซื้อคืนเพื่อทำกำไร $1,729-1,711

ตัดขาดทุน     ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากผ่าน $1,753

แนวรับ : 1,729 1,711 1,693  แนวต้าน : 1,753 1,767 1,786

สรุป

- Advertisement -

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระหว่างวันราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง 0.58% ท่ามกลางแรงขายสกุลเงินปลอดภัยเนื่องจากนักลงทุนทั่วโลกกลับมาเปิดรับความเสี่ยง(Risk on) ประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -9 ในเดือนพ.ย. ซึ่งถือว่า “ต่ำกว่า” ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้จึงเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากสกุลเงินยูโร ที่แข็งค่าขึ้นขานรับการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในยูโรโซนที่ปรับตัวขึ้นเกินคาดสู่ระดับ -23.9 ในเดือนพ.ย. ขณะที่นายโรเบิร์ต โฮลซ์แมนน์ ซึ่งเป็นคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า เขามีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bps ในการประชุมเดือนธ.ค. สถานการณ์ดังกล่าวหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,749.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวัน อย่างไรก็ดี ราคาทองคำลดช่วงบวกในเวลาต่อมา ส่วนหนึ่งได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไรเนื่องจากทองคำยังไม่สามารถทะลุผ่าน Downtrend line ได้ นอกจากนี้ ทองคำยังถูกกดดันจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก ทั้งตลาดหุ้นเอเชีย ตลาดหุ้นสหรัฐ และตลาดหุ้นยุโรป ซึ่งบั่นทอนความต้องการลงทุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมาปิดตลาดบริเวณ 1,739.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น +0.87 ตัน สำหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ, ยอดขายบ้านใหม่, คาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก UoM และ FOMC Meeting Minutes

ข่าวสารประกอบการลงทุน

  • (+) ดอลล์อ่อนค่า ตลาดจับตารายงานประชุมเฟด ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (22 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.57% แตะที่ 107.2230   ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 141.21 เยน จากระดับ 142.13 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9523 ฟรังก์ จากระดับ 0.9592 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3383 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3446 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.6440 โครนา จากระดับ 10.7110 โครนา   ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0299 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0243 ดอลลาร์
  • (+) กรรมการ ECB ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนธ.ค. นายโรเบิร์ต โฮลซ์แมนน์ ซึ่งเป็นสมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า เขายังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. อย่างไรก็ดี นายโฮลซ์แมนน์กล่าวว่า หากยังไม่มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญทางด้านเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ เขาก็เลือกที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% นายโฮลซ์แมนน์กล่าวเสริมว่า เขายังไม่ตัดสินใจว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% หรือ 0.75% แต่จากสภาวะในขณะนี้ เขามีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%
  • (+) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซนสูงกว่าคาดในเดือนพ.ย. คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในยูโรโซนปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -23.9 ในเดือนพ.ย. จากระดับ -27.5 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ -26.0
  • (+) เฟดริชมอนด์เผยดัชนีภาคการผลิตต่ำกว่าคาดในเดือนพ.ย. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิตปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -9 ในเดือนพ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -8 จากระดับ -10 ในเดือนต.ค.
  • (-) ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 397.82 จุด รับผลประกอบการบริษัทค้าปลีก ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 400 จุดในวันอังคาร (22 พ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง หลังจากเบสท์บาย ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกสินค้าอิเลกทรอนิกส์รายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันยังเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,098.10 จุด พุ่งขึ้น 397.82 จุด หรือ +1.18%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,003.58 จุด เพิ่มขึ้น 53.64 จุด หรือ +1.36% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,174.41 จุด เพิ่มขึ้น 149.90 จุด หรือ +1.36%

ขอขอบคุณ  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

- Advertisement -

Comments are closed.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More