- Advertisement -

มอง SPDR สะท้อนแนวคิดนักลงทุนทองคำ

สัมภาษณ์พิเศษ สัมภาษณ์พิเศษ ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยทองคำ

“กองทุน SDPR ยังเทขายทองคำไม่หยุด ปี 2023 + ต้นปี 2024 ขายไปกว่า 50 ตัน ผอ.GRC ชี้เหตุจากดอกเบี้ยยังสูง เงินไหลไปดอลลาร์ ดำเนินรายการ”

โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

.

- Advertisement -

รับชมคลิป มอง SPDR สะท้อนแนวคิดนักลงทุนทองคำ

การเคลื่อนไหวของกองทุน SPDR กองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภาพรวมในปี 2023 ที่ผ่านมา พบว่าถือครองทองคำลดลง -38.53 ตัน เหลือถือครองทองคำแค่ 879.11 ตัน เท่านั้น

แม้ว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา SPDR Gold Shares จะกลับมาซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 5.47 ตัน โดยเดือน ต.ค. ขายทองคำออก 14.15 ตัน เดือน พ.ย. ซื้อทองคำเข้า 19.04 ตัน และเดือน ธ.ค. ซื้อเข้า 0.58 ตัน

ขณะที่ปี 2024 เปิดศักราชมาได้ 27 วัน SPDR Gold Shares ขายทองคำออกไปแล้ว 20.18 ตัน ทำให้เหลือถือครองทองคำ 858.93 ตัน

ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยทองคำ (GRC) กล่าวกับ GoldAround ว่า

- Advertisement -

การถือครองทองคำลดลงของ SPDR ชี้ให้เห็นว่า นักลงทุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนทองคำแท่งที่สหรัฐอเมริกา อยากจะถือเงินสดดอลลาร์สหรัฐฯ มากกว่าที่จะถือทองคำ

เพราะอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งให้ผลตอบแทนมากกว่า ฉะนั้นก็เลยต้องขายตัวสัญญาทองคำออกมา

ทั้งนี้ หากจะมองตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า ราคาทองคำ gold spot วิ่งในกรอบ 50-60 ดอลลาร์ ที่ระดับราคาทองคำประมาณ 2,000 ดอลลาร์ หากว่าลงทุนแล้วได้กำไร เทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 2% เศษ

แต่หากเป็นช่วงเวลาที่เกิดสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ อย่างเช่นช่วงปลายปีที่ผ่านมาที่เกิดปัญหาการสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ทำให้ราคาทองคำดีดตัวแรง นักลงทุนก็จะหันกลับมาถือทองคำ เพราะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า

ฉะนั้น การเคลื่อนไหวของ SPDR ก็สะท้อนภาพของการลงทุนทองคำ ถ้าเรามาเทียบกับงานของศูนย์วิจัยทองคำ ก็จะเหมือนกับตัวดัชนีความเชื่อมั่นทองคำ แต่ SPDR เป็นกองทุนที่ซื้อขายทองคำกันจริง ๆ

ซึ่งกองทุนในลักษณะนี้ มีหลายแห่ง ในประเทศไทยก็มีกองทุนทองคำ ซึ่งก็ไปอิงกับตัว SPDR เหมือนกัน และ SPDR ก็ครองส่วนแบ่งมากกว่า 50- 60% ของนักลงทุนทองคำ ทั้งนักลงทุนรายย่อย และรายใหญ่ ดังนั้น เมื่อ SPDR เทขายทองคำ ก็มองได้ส่วนหนึ่งว่าคนเริ่มสนใจทองคำลดน้อยลง

ส่วนกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดดอกเบี้ย แล้วจะทำให้นักลงทุนกลับมาสนใจทองคำเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น มองว่าต้องดูอัตราที่เฟดจะลดดอกเบี้ยลง หากว่ายังไม่มาก นักลงทุนก็อาจจะยังมองว่าเงินดอลลาร์น่าสนใจมากกว่า

ยกเว้นว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยไปได้ในระดับหนึ่ง และนักลงทุนมองว่าการถือทองคำน่าสนใจมากกว่า เชื่อว่า SPDR ก็จะกลับมาซื้อทองคำเพิ่มมากขึ้น

นอกจากจะดูนโยบายของเฟดแล้ว อีก 1 ผู้เล่นที่ต้องจับตามอง ก็คือ ธนาคารกลางทั่วโลก ที่ทยอยเพิ่มสะสมทองคำในทุนสำรองของประเทศ รวมถึงกลุ่มสถาบันการเงินใหญ่ ๆ ซึ่งจะส่งผลต่อราคาทองคำ และทำให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้น ซึ่งจะดันราคาให้สูงขึ้น ก็อาจจะเป็นอีกเหตุผลที่ SPDR กลับมาถือทองคำเพิ่มขึ้น

ส่วนภาพรวมการค้าทองคำของเมืองไทยในช่วงต้นปี

ก็ยังพอมีแรงซื้อทั้งทองรูปพรรณและทองคำแท่งเข้ามาบ้าง แม้ว่าราคาทองคำจะยังคงอยู่ในระดับสูงแถว 33,400-33,500 บาท ทั้งทองรูปพรรณและทองคำแท่ง ทำให้ผู้ประกอบการใจชื้นขึ้นมาบ้าง หลังจากที่ตลาดซบเซามาตลอด และยังคาดว่ายอดขายจะมีเข้ามาจนถึงช่วงเทศกาลตรุษจีน

แต่ทั้งนี้ ต้องมารอดูว่า ราคาทองคำจะปรับลงมาบ้างหรือไม่ หากลงมาแถว 30,500-30,700 บาท เชื่อว่าจะมียอดการซื้อเพิ่มเติม แต่หากราคายังคงสูง ปริมาณการซื้อขายก็อาจจะซบเซาเหมือนเดิม ต้องลุ้นให้ราคาลงจากไปนี้อีกนิด

“ในช่วงต้นปี ยอดขายทองคำเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะสะท้อนให้เห็นว่า สภาพเศรษฐกิจโดยรวมอาจจะดีขึ้นเล็กน้อย ทำให้บางธุรกิจมีการจ่ายเงินโบนัส และผู้บริโภคก็นำเงินบางส่วนมาซื้อทองคำเพื่อเป็นการสะสม

แต่ก็ต้องยอมรับว่า ยังห่างไกลจากจุดที่ตลาดทองคำเฟื่องฟู ซึ่งช่วงนั้นราคาทองคำอาจจะอยู่แถวประมาณ 20,000-25,000 บาท และมองว่า คงจะเป็นเรื่องยากที่ราคาทองคำจะกลับไปยังจุดดังกล่าว เพราะราคาทองคำไทยได้ยกฐานขึ้นมาเรื่อย ๆ ซึ่งได้ส่งผลต่อยอดขายโดยตรง

ซึ่งในปีนี้ ผู้ประกอบการก็ยังหวังว่าหากยอดขายปีนี้กระเตื้องขึ้นจากปีที่ผ่านมา ประมาณ 50 % ก็ถือว่าดีมากแล้ว” ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าว

- Advertisement -