- Advertisement -

หลังจากที่ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา

พร้อมกันนี้ เฟดประกาศแผนปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ย. และจะไปยุติการทำ QE ในช่วงกลางปี 2022

คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวกับ GoldAround.com ว่า โดยรวมจะเห็นได้ว่า ราคาทองคำฟื้นตัวหลังจากผลการประชุมเฟด เพราะผลประชุม สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด ซึ่งราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาแล้วก่อนหน้านี้ เพื่อ Price in การคาดการณ์ดังกล่าว นักลงทุนจึงมีการซื้อคืนส่งผลให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้น

นอกจากนั้น เฟดยังคงระบุว่า “อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นส่วนใหญ่สะท้อนถึงปัจจัยที่คาดว่าจะเกิดขึ้นชั่วคราว (transitory)” ซึ่งถือว่ายังเป็นไปในโทน Dovish เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้าของบรรดานักเศรษฐศาสตร์ที่คาดการณ์ว่า เฟดจะมีการปรับเปลี่ยนข้อความเกี่ยวกับเงินเฟ้อให้มีความ Hawkish มากขึ้น

ขณะที่ ประธานเฟดยังคงย้ำว่า การตัดสินใจลด QE ไม่ได้หมายความถึงสัญญาณโดยตรงใด ๆ เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และ เฟดจะ “อดทน” ต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งการส่งสัญญาณในเชิงไม่เร่งรีบในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เป็นอีกปัจจัยที่หนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวเช่นกัน

- Advertisement -

“YLG ประเมินว่า หลังจากนี้นักลงทุนจะเปลี่ยนจุดสนใจไปยังจังหวะเวลาที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และตลาดแรงงานฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือ หากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงเกินกว่าการคาดการณ์ของเฟด อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เฟดขยับจุดยืนในการดำเนินนโยบายการเงินให้เข้มงวดมากขึ้น โดยแนะนำนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสำคัญในตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ที่กำลังจะเปิดเผยในวันศุกร์ที่ 5 พ.ย. นี้เพื่อใช้เป็นปัจจัยชี้นำทองคำ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG กล่าว

มาดูภาพรวมระยะสั้นราคาทองคำ จะพบว่ายังคงทรงตัวอยู่ได้ดี แม้ว่าเฟดจะประกาศปรับลดวงเงิน QE แต่ในแง่ของปัจจัยทางเทคนิค YLG ยังคงประเมินแนวโน้มราคาทองคำในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี มีแนวโน้มแกว่งตัวในทิศทางอ่อนตัวลง ตราบใดที่ราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,833 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสูดของ 3 เดือนที่ผ่านมา (ก.ค. ส.ค. และ ก.ย.) ได้นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่จะสลับออกมา

ราคาทองคำจะเป็นบวกมากขึ้นและมีโอกาสปรับตัวขึ้นยืนเหนือ 1,850 ดอลลาร์ ได้ก็ต่อเมื่อ ราคาทองคำทะลุผ่านบริเวณ 1,833 ดอลลาร์ โดยต้องอาศัยปัจจัยพื้นฐานใหม่ ๆ เพิ่มเติม เข้ามาสนับสนุนทองคำ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG กล่าว

ขอขอบคุณ YLG

- Advertisement -