สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 13 ต.ค.66
เงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังพุ่งกด gold spot ร่วง แต่ยืนเหนือ $1,870 หลังสงครามร้อนระอุ ส่วนทองไทยเปิดตลาดบวก 100 บาท
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
.
.
รับชมคลิป สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้
ราคาทองคำไทยเช้านี้ (13 ต.ค.) ราคาแรกที่ สมาคมค้าทองคำ ประกาศ เพิ่มขึ้น 100 บาท ราคาขายออก อยู่ที่ 32,350 บาท ราคารับซื้อ 32,250 บาท เงินบาท 36.50 บาทต่อดอลลาร์
โดย ShiningGold มองว่า ราคาทองคำ spot เริ่มมีแรงเทขายมากขึ้นเมื่อเข้าใกล้แนวต้านสำคัญ 1,885 และ 1,896 ดอลลาร์
ขณะที่ค่าเงินบาท หลังจากแข็งค่ามาสักระยะเริ่มมีสัญญาณการชะลอตัวเล็ก ๆ ทำให้ราคาทองไทยแม้จะมีพื้นที่ในการปรับตัวลงได้อีก แต่ก็ยังมีแรงเด้งกลับปละปลายได้
นักลงทุนระยะสั้นย่อตัวเข้าซื้อเพียงเล่นรอบ นักลงทุนระยะกลางที่รอสะสมใหม่ยังคงรอต่ำกว่า 32,000 บาท เช่นเดิม โดย ShiningGold ให้แนวต้าน 32,280 และ 32,390 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 32,100 และ 31,900 บาท
ขณะที่ราคาทองคำ spot เมื่อวานนี้ ได้ปรับตัวลง 5 ดอลลาร์ โดยในช่วงระหว่างวันของการซื้อขายราคาได้ขึ้นไปทดสอบแนวต้าแถว 1,885 ดอลลาร์ แต่เมื่อยืนไม่ได้ก็ถูกเทลงมา โดยได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์แข็งค่าและ Bond yield สหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น
หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือน ก.ย. โดย ดัชนี CPI รวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.7% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.6% และเพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค. ที่ 3.7%
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไป เดือน ก.ย. x=ปรับตัวขึ้น 0.4% สูงกว่าที่คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% ลดลงจากเดือนส.ค. ที่ระดับ 0.6%
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 4.1% เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ลดลงจากเดือน ส.ค. ที่ระดับ 4.3% เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเท่ากับเดือน ส.ค. ที่ระดับ 0.3%
นอกจากนี้ เมื่อวานนี้มีการเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรงตัวที่ระดับ 209,000 รายแล้ว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 210,000 รายโดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกต่ำกว่าระดับ 210,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน
หลังการประกาศตัวเลข CPI ที่สูงเกินคาด และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ทำให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักในการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นการประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายในปีนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 35.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75% ในการประชุมเดือน ธ.ค. หลังจากวานนี้ให้น้ำหนักเพียง 26.3%
ไปดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในประเทศไทย
โดย YLG Bullion มองว่า
ราคาทองคำ มีแรงขายกดดันราคาเข้ามาบ้าง แต่ยังคงมีแรงซื้อสลับเข้ามาพยุงราคาไว้ หากราคาทรงตัวรักษาระดับไว้ได้ ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ และจะทำ ให้มุมมองเชิงบวกเพิ่มขึ้น แนะนำ พิจารณาโซน 1,858-1,839 ดอลลาร์ ในการเปิดสถานะซื้อ ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,839 ดอลลาร์ ขณะที่การปิดสถานะซื้อแบ่งทำกำไร รอการปรับตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านโซน 1,891-1,909 ดอลลาร์
ด้าน ShiningGold มองทางเทคนิคว่า
ราคาทองคำ Spot ขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,885 ดอลลาร์ แล้วผ่านไปไม่ได้ประกอบกับปัจจัยลบเพิ่มเติมทำให้เกิดแรงเทขายออกมา ภาพรวมรายสัปดาห์ยังปิดดูดีก็จริง แต่รายวันถือว่าปิดไม่สู้ดีนัก ราย 4H พยายามเกาะขอบล่างของ uptrend channel หากหลุดแนวดังกล่าวอาจมีแรง panic sell ตามมาอีกละลอกก็เป็นได้
กลยุทธ์การลงทุน ShiningGold แนะนะรอราคา rebound ให้ open short ที่ 1,873 ดอลลาร์ และ1,880-1,882 ดอลลาร์ มีจุด SL ที่ 1,888 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,864/1,860 และ 1,854 ดอลลาร์
ขณะที่ ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า
ราคาทองคำเกิดสัญญาณขายทางเทคนิค อย่างไรก็ตาม คาดว่ามีแรงเทขายระยะสั้นเท่านั้น และอาจจะมีแรงซื้อกลับบริเวณแนวรับ 1,860-1,864 ดอลลาร์ ซึ่งราคาทองคำมีแนวรับต่อไปที่ 1,850 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้าน 1,880 และ 1,890 ดอลลาร์
ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์
ให้แนวรับรายวัน 1,868 และ 1,861 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 1,881 และ 1,887 ดอลลาร์
Comments are closed.