ราคาทองคำ บินทะลุกรอบ หลายปัจจัยเข้าหนุนพร้อมกัน gold spot -ทองไทย ลุ้นทำ ATH
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
มาดูราคาทองคำไทยวันนี้ ( 13 มี.ค.) สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันเพิ่มขึ้น 200 บาท
ก่อนอีก 1 ชั่วโมงครึ่งถัดมาปรับเพิ่ม 50 บาท 2 ครั้ง ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 10.30 น. อยู่ที่ 47,000 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,900 บาท
ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 47,800 บาท ส่วนราคารับซื้อ 46,056.08 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.77 บาทต่อดอลลาร์
โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า
ราคาทองคำแท่งสามารถทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วันขึ้นไปได้ และมีสัญญาณซื้อเกิดขึ้น จาก Modified Stochastic ทำให้ราคาทองคำแท่งอาจปรับตัวขึ้นระยะสั้น ทั้งนี้สามารถเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นในรอบสั้น ๆได้ โดยให้แนวรับที่ 46,700 และ 46,600 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 47,000 และ 47,100 บาท
ขณะที่ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้( 12 มี.ค.) ปิดบวก 18 ดอลลาร์ โดยขึ้นไปแตะจุดสูงสุด 2,940 ดอลลาร์ ก่อนจะมาปิดตลาดที่ 2,933 ดอลลาร์ ขณะที่ช่วงเช้าราคาขึ้นไปทดสอบที่ 2,945 ดอลลาร์
ราคาทองคำได้แรงหนุนหลังสหรัฐฯ เผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.พ. ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ออกมา 2.8% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.9% ชะลอตัวลงจากเดือนม.ค.ที่เพิ่มขึ้น 3.0%
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปีปรับตัวขึ้น 3.1% ชะลอตัวลงจากเดือนม.ค.ที่เพิ่มขึ้น 3.3% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.2% ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ เฟด เพิ่มขึ้น
ประกอบกับมีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลว่าสงครามการค้า จะส่งผลให้สหรัฐเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ขณะที่แคนาดาและสหภาพยุโรป (EU) ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ส่วนข้อตกลงสันติภาพรัสเซีย-ยูเครนยังไม่แน่นอน หลังปธน. ทรัมป์ ขู่ว่ารัสเซียจะถูกคว่ำบาตรทางการค้าและทางเศรษฐกิจอย่างหนัก หากรัสเซียปฏิเสธที่จะยอมรับข้อตกลงหยุดยิงกับยูเครนเป็นเวลา 30 วัน ทำให้เป็นแรงหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่ม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (ทั่วไป) เทียบรายเดือนก.พ. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% จากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ดัชนีราคาผู้ผลิต (พื้นฐาน) เทียบรายเดือนก.พ. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% จากเพิ่มขึ้น 0.3% และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5,000 ราย สู่ระดับ 226,000 ราย
มาดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง YLG Bullion มองว่า
เมื่อวานนี้ราคายืน 2,893 ดอลลาร์ต่อ ทำให้รักษาโมเมนตั้มขาขึ้นในระยะสั้นได้ ระหว่างวันถ้าการย่อตัวไม่หลุด 2,906 ดอลลาร์ มองว่ายังไม่เสียทรงขาขึ้นในระยะสั้น แต่หากหลุด 2,906 ดอลลาร์ ราคาจะมีโอกาสพักตัว-ลงต่อ ขณะที่แนวต้านสำคัญระยะกลางจะอยู่บริเวณ 2,955-2,941 ดอลลาร์
สำหรับกลยุทธ์เสี่ยงซื้อหากราคาย่อไม่หลุด 2,919-2,906 ดอลลาร์ ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 2,881 ดอลลาร์ เพื่อดูการเคลื่อนไหวของราคาอีกครั้ง แบ่งขายหากราคาดีดไม่ผ่าน 2,941-2,955 ดอลลาร์ หากผ่าน 2,955 ดอลลาร์ไปได้ ให้ชะลอขายไปที่ต้านถัดไป
ด้าน T.D.C. Gold มองว่า
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อหลังจาก ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค เดือนก.พ. ขยายตัวน้อยกว่าที่คาด โดยเมื่อเทียบเป็นรายเดือนขยายตัว 0.2% และเมื่อเทียบเป็นรายปีอยู่ที่ 2.8%
นอกจากนั้นตลาดคลายกังวลสงครามการค้าบางส่วนส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เพียงแต่ BondYield ยังไม่ได้ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งมองว่าราคาทองคำจะยังผันผวนอยู่ในกรอบ โดยในระยะสั้นยังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังมองภาพรวมไม่ได้มีทิศทางอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่ Ausiris ระบุว่า
วานนี้ราคาทองคำ gold spot ทำจุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ โดยปิดที่ 2,938 ดอลลาร์ หนุนราคาทองคำขายออกในประเทศมากกว่าบาทละ 46,500 บาท โดยได้แรงหนุนจากเงินเงินดอลลาร์อ่อนค่า หลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ. ชะลอตัวลงมากกว่าคาดการณ์ ทำให้นักลงทุนเพิ่มความหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยคาดเป็นเดือน มิ.ย., ก.ย.และ ธ.ค
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ และความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าที่มีต่อสหรัฐเองเศรษฐกิจทั่วโลก ทั้งนี้ Ausiris ให้แนวรับราคาทองคำ Gold Spot ที่ 2,930/2,912 และ 2,895 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,940/2,955 และ 2,970 ดอลลาร์
ปิดท้ายที่ InterGOLD มองว่า
ระยะสั้นเทรนขาขึ้นยังแข็งแกร่ง แนะนำให้ถือต่อลุ้นทะลุ 2,955 ดอลลาร์ขึ้นไป คาดว่าอาจจะขึ้นไปทดสอบ 3,000 ดอลลาร์ ส่วนใครที่ไม่มีของเลยแล้วอยากซื้อลุ้นตรงนี้ก็พอทำได้ แต่ว่าหากราคาหลุด 2,915 ดอลลาร์ ต้อง Cut loss ทันที
โดยให้แนวต้านที่ 2,955 ดอลลาร์ หรือ 47,100 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 2,915 ดอลลาร์หรือ 46,700 บาท ทั้งนี้ยังมีระดับแนวรับที่แข็งแกร่งอยู่ที่ 2,880 ดอลลาร์ หรือ 46,400 บาท ซึ่งเป็นจุดที่นักวิเคราะห์มองว่าราคาอาจพักตัวหากเกิดแรงเทขาย
รับชมคลิป
Comments are closed.