สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 11 เม.ย.67
ราคาทองคำ gold spot ถูกเทแตะ $2,320 หลัง CPI ยังสูง คาด FED ลดดอกเบี้ยแค่ 2 ครั้ง ส่วนทองคำไทยไม่กระทบ เช้านี้บวกอีก 200 บาท
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
.
รับชมคลิป สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้
ราคาทองคำไทย (11 เม.ย.) เช้านี้ยังเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยในช่วง 10.00 น. สมาคมค้าทองคำ ประกาศปรับราคาขึ้นมาแล้ว 200 บาท
ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 40,650 บาท ส่วนราคารับซื้อ 40,550 บาท
ขณะที่ ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 41,150 บาท ส่วนราคารับซื้อ 39,825.32 บาท คำนวณจากเงินบาท 36.62 บาทต่อดอลลาร์
โดยเงินบาทเช้านี้ เปิดตลาดอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ออกมาสูงกว่าคาด ทำให้ตลาดมองว่าปี นี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้ง จากที่เคยคาดว่าจะลด 3 ครั้ง ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่า โดยวันนี้คาดเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ ที่ 36.60 – 36.80 บาท/ดอลลาร์
ทั้งนี้ Shining Gold ระบุว่า
ราคาทองคำไทยดีดตัวพุ่งขึ้นหลังย่อตัวแตะ 40,310 บาท จากการแข็งค่าของเงินบาท แต่เมื่อตลาดเริ่มได้รับความชัดเจนจากจากโครงการดิจิตอลวอลเลต ก็ทำให้เงินบาทกลับมาอ่อนค่าขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 36.24 กลับมา 36.70 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้ราคาทองคำไทยก็ดีดกลับขึ้นมาอีกครั้ง ถือเป็นการย่อตัวเก็บของที่สมบูรณ์
โดยรวมราคาทองคำไทยยังปรับตัวขึ้นต่อได้อีก แต่ก็ยังเป็นการเข้าลงทุนแต่เพียงเล็กน้อย และเฝ้าสังเกตอาการความเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิดก่อนเข้าสู่ช่วงสงกรานต์
Shining Gold ให้แนวต้านที่ 40,670 และ 40,900 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 40,450-40,350 และ 40,100 บาท
ขณะที่ ราคาทองคำ goldspot เมื่อวานนี้ (10 เม.ย.) ปรับตัวลดลง 20 ดอลลาร์
โดยราคาลงมาแตะจุดต่ำสุดที่ 2,319 ดอลลาร์ ก่อนจะมีแรงซื้อทำให้ราคาวกปิดตลาด 2,332 ดอลลาร์
โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ภายหลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 3.5% สูงกว่าตลาดคาด ทำให้ตลาดเริ่มปรับเปลี่ยนมุมมองการคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยใน เดือน ก.ย.
โดย FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 16.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม เดือน มิ.ย.
ซึ่งลดลงอย่างมากจากระดับ 56% ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี CPI และให้น้ำหนัก 46.1% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือน ก.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 33.7% ก่อนหน้านี้
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผย ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน มี.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% จาก 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 2.3% จาก 1.6% เมื่อเทียบรายปี นอกจากนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป และการแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรป
ไปดูมุมมองจากบริษัทค้าทองคำในประเทศ
ทาง T.D.C. Gold ระบุว่า
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ เดือน มี.ค. ขยายตัว 3.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 3.2% ส่วนใหญ่แล้วเป็นผลจากราคาบ้าน ค่าเช่า ที่ยังทรงตัวอยู่ระดับสูง ขณะที่ราคาอาหารลดลงเล็กน้อย
โดยรวมแล้ว เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระบบเศรษฐกิจค่อนข้างมาก ทำให้ตลาดประเมินการลดดอกเบี้ยของ Fed จะออกไปจนถึงอย่างน้อยในเดือน ก.ย. จนทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง ทั้งนี้ตลาดยังอยู่ในภาวะเก็งกำไร
ด้าน YLG Bullion มองว่า
หากวันนี้ การปรับตัวขึ้นจำกัด อาจเกิดแรงขายสลับเข้ามาเพิ่ม เมื่อขึ้นทดสอบแนวต้าน 2,351-2,366 ดอลลาร์
หากไม่สามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่ง อาจต้องระมัดระวังการอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับ 2,329-2,320 ดอลลาร์
พิจารณาเปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้น หากราคายังสามารถยืนเหนือแนวรับ และหากราคาปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน บริเวณดังกล่าวอาจพิจารณาปิดทำกำไร แต่หากผ่านโซนดังกล่าวไปได้ สามารถชะลอการปิดสถานะซื้อออกไป
ขณะที่ ARR Goldtrading มองว่า
การปรับฐานล่าสุด ยังมีแรงขายไม่มาก ราคาทองคำจึงมีโอกาสแกว่งออกข้างในระยะต่อไปในกรอบ 2,300-2,360 ดอลลาร์
เป็นโอกาสในการเข้าเก็งกำไรระยะสั้น โดยนักลงทุนสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการรอเข้าซื้อที่แนวรับแถว 2,320-2,310-2,300 ดอลลาร์
พิจารณาขายตัดขาดทุนหากราคาปรับตัวลงต่ำกว่า 2,300 ดอลลาร์ ขายทำกำไรเมื่อราคาขยับเข้าใกล้แนวต้าน แถว 2,345-2,350-2,360 ดอลลาร์
ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์
ให้แนวรับที่ 2,314 และ 2,325 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,353 และ 2,367 ดอลลาร์
Comments are closed.