- Advertisement -

SPDR เดินหน้าขายต่อ เปิดฉากเดือนสุดท้ายของปี ปล่อยทองคำอีกกว่า 3 ตัน ขณะที่ราคาทองคำดีดกลับแรงพุ่งแตะ 1,815 ดอลลาร์ ผอ.ศูนย์วิจัยทองคำ ชี้ให้จับตามองว่าเป็นเทคนิคัลรีบาวด์หรือไม่ หากยืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์ไม่ได้ โอกาสร่วงต่อยังมีสูง

SPDR GOLD SHARES กองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดฉากเปิดฉากเดือนสุดท้ายของปี ด้วยการขายทองคำแท่งออก เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (2 ธ.ค.) ได้ขายออกอีก 3.50 ตัน ที่ราคา 1,814 ดอลลาร์ ทำให้ยอดการซื้อทองคำของ SPDR ในปีนี้ อยู่ที่ 302 ตัน รวมขณะนี้ SPDR เหลือถือครองทองคำแท่ง 1,191.28 ตัน

ไปดูการซื้อ-ขายสัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. ปิดที่ 1,818.9 ดอลลาร์ พุ่งขึ้น 38 ดอลลาร์ หรือ 2.13% โดยนักลงทุนได้หันกลับมาซื้อ หลังจากราคาทองคำดิ่งลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญกับความไม่แน่นอนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง

ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า แม้ว่าราคาวันนี้จะดีดตัวกลับขึ้นมา แต่อาจจะเป็นการรีบาวด์ทางเทคนิคในช่วงสั้นๆ ซึ่งต้องดูว่าราคาจะสามารถยืนเหนือระดับ 1,795 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคงหรือไม่ หากทำได้อาจจะทำให้ราคาพุ่งไปต่อได้ แต่หากยืนไม่ไหวยังมีโอกาสที่ราคาจะกลับลงไปแถว 1,760 -65 ดอลลาร์ และหากแนวรับนี้ยังเอาไม่อยู่ แนวรับต่อไปจะเป็นที่ 1,730-35 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นเส้น fibo 200

- Advertisement -

ทั้งนี้เมื่อมองในเชิงเทคนิคแล้วโอกาสที่ราคาจะลดลงมีอยู่มาก ประกอบกับเมื่อดูสถิติราคาทองคำที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าในช่วงเดือน พ.ย.ถึงช่วงกลางเดือน ธ.ค. ราคาทองคำจะปรับลดลงมา เนื่องจากกองทุนต่างๆ จะเริ่มเทขายทำกำไรเพื่อปิดบัญชีประจำปี ซึ่งจะเห็นได้ว่าในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา  SPDR ได้เททองคำขายออกกว่า 60 ตัน และคาดว่าในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนธ.ค.ก็น่าจะมีการเทขายออกมาอีก

ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆที่น่าสนใจ มีรายงานว่าในวันนี้ นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เตรียมหารือกับนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เกี่ยวกับการอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณ ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือการชัทดาวน์ รวมถึงการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ วงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์ ตามข้อเสนอของวุฒิสภา ที่จะนำมาเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ด้านองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ประกาศปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ จะหดตัวเหลือ 4.2% ในปีนี้ ดีกว่าที่คาดการณ์ในเดือน ก.ย.ว่าจะหดตัวลง 4.5% หลังมีความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการที่รัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกพากันออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด-19

Cr : traderider.corp

- Advertisement -

CR :อินโฟเควสท์

- Advertisement -