ราคาทองคำรีบาวด์ใกล้แตะ $1,800 แต่ต้องลุ้นให้ยืนระยะ มิฉะนั้นอาจร่วงหนักอีก
- Advertisement -
- Advertisement -
ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในวันนี้ ถือว่าได้ฟื้นตัวขึ้นมาระดับหนึ่ง หลังจากที่เมื่อวานนี้ลดลงมาแตะ 1,764 ดอลลาร์ ก่อนในช่วงเช้าราคาจะขยับมาอยู่ที่ 1,775 ดอลลาร์ จากนั้นได้ขยับไซด์เวย์อัพตลอดทั้งวันก่อนที่ล่าสุด(17.30 น.)ราคาจะขึ้นมาแตะระดับ 1,797 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศไทย วันนี้ปรับขึ้นมา 4 ครั้งรวมบาทละ 200บาท โดยราคาทองคำแท่งมาปิดที่รับซื้อ บาทละ 25,600 บาท ขายออกบาทละ25,700 บาท
“แม้ว่าราคาวันนี้จะดีดตัวกลับขึ้นมา จากที่เมื่อวานนี้ร่วงลงไปแตะ 1,763 ดอลลาร์ แต่อาจจะเป็นการรีบาวด์ทางเทคนิคในช่วงสั้นๆ และยังมีโอกาสที่จะกลับลงไปแถว 1,760 -65 ดอลลาร์ และหากแนวรับนี้ยังเอาไม่อยู่ แนวรับต่อไปจะเป็นที่ 1,730-35 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นเส้น fibo 200 แต่หากราคาสามารถกลับขึ้นมายืนเหนือ 1,795 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง ก็อาจจะทำให้ราคาพุ่งไปต่อได้”
ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวกับ GoldAround.com
เมื่อมองในเชิงเทคนิคโอกาสที่ราคาจะลดลงมีอยู่มาก ประกอบกับเมื่อดูสถิติราคาทองคำที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าในช่วงเดือน พ.ย.ถึงช่วงกลางเดือน ธ.ค. ราคาทองคำจะปรับลดลงมา เนื่องจากกองทุนต่างๆ จะเริ่มเทขายทำกำไรพื่อปิดบัญชีประจำปี หลังจากที่ได้ซื้อมาตั้งแต่ต้นปี ซึ่งจะเห็นได้ว่าในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา SPDR ได้เททองคำขายออกกว่า 60 ตัน และคาดว่าในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนธ.ค.ก็น่าจะมีการเทขายออกมาอีก
“เดือนพ.ย.ที่ผ่านมาราคาทองคำลดลงไปประมาณ 14 % ซึ่งไม่ได้เหนือความคาดหมายมากนัก เพราะเป็นฤดูกาลเทขาย แต่เชื่อว่าในครึ่งหลังของเดือนธันวาคม แรงซื้อจะกลับเข้ามา และจะทำให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่จะเป็นลักษณะการค่อยๆ ขึ้น ก่อนคาดว่าจะไปสิ้นสุดปีที่แนว 1,880 ดอลลาร์ บวก-ลบ 10 ดอลลาร์ ยกเว้นหากมีเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมายเข้ามาก็อาจจะทำให้ราคาผันผวนแรง ทั้งนี้มองว่าในช่วงกลางเดือนธันวาคม จะเป็นช่วงที่น่าเข้าซื้อสะสม เพื่อไปทำกำไรในช่วงตรุษจีน หรือถือทำกำไรในระยะกลางได้”
ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวกับ GoldAround.com
- Advertisement -
ส่วนในสัปดาห์นี้ คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,765-1,795 ดอลลาร์ โดยประเด็นที่คาดว่าจะส่งผลต่อราคาทองคำ คือตัวเลขการจ้างงาน ทั้งในส่วนของภาคเอกชน และนอกภาคการเกษตร ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าจะไม่ดีมาก เนื่องจากปัญหาจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในสหรัฐ เพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้หลายพื้นที่ต้องกลับมาใช้มาตรการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด และทำให้การจ้างงานลดลง แต่จะส่งผลดีต่อราคาทองคำ
ส่วนเรื่องความคืบหน้าการผลิตวัคซีนป้องกัน COVID-19 ที่ 3 กลุ่มบริษัทได้ยื่นเรื่องขอ FDA ไปนั้น คาดว่าคงจะได้รับอนุมัติ เพราะผลการทดลองได้คืบหน้าไปมากแล้ว แต่อาจจะไม่ส่งผลกับราคาทองคำมากนัก เพราะตลาดได้รับข่าวนี้ไปแล้ว เช่นเดียวกับผลการลงคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง เพื่อเลือก “โจ ไบเดน” เป็นประธานาธิบดีในวันที่ 14 ธ.ค.ก็ไม่น่าจะผิดจากที่คาดการณ์ไว้ ทำให้อาจจะไม่ส่งผลต่อราคาทองคำมากนักเช่นกัน
- Advertisement -
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.