- Advertisement -

สหรัฐฯ อยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยอยู่แล้ว ไม่ว่าจะนิยามแบบใดก็ตาม และแม้ว่าอัตราเงินเฟ้ออาจถึงจุดสูงสุดไปแล้ว แต่ในตอนนี้จะมีการพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มลดอัตราดอกเบี้ย

“Michael Burry นักลงทุนจาก “The Big Short” และผู้ก่อตั้ง Scion Asset Management ได้ ออกมาเตือน

Michael Burry กล่าวเพิ่มเติมว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจ ไม่ได้รับประกันว่า ปัญหาเงินเฟ้อที่เฟดพยายามต่อสู้มาตลอดในปี 2565 จะสิ้นสุดลง

ทั้งนี้ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อถึงจุดสูงสุดแล้ว แต่มันไม่ใช่จุดสูงสุดสุดท้ายของวัฏจักรนี้

มีแนวโน้มว่า CPI จะต่ำลง และอาจติดลบในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2023

- Advertisement -

โดยเฟดจะปรับลดดอกเบี้ย แต่รัฐบาลจะกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้น มีโอกาสที่เงินเฟ้อจะพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง

เมื่อปีที่แล้ว ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ใช้นโยบายที่เข้มงวดเป็นประวัติการณ์ โดยขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่รวดเร็วที่สุด นับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1980 โดยรวมเพิ่มขึ้น 4.25%

ซึ่งการประชุมเมื่อเดือน ธ.ค. เฟดชะลอการขึ้นดอกเบี้ยเหลือ 0.50% แต่ยังคงแน่วแน่ในเป้าหมาย เพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ โดยเตือนตลาดว่า อัตราดอกเบี้ยจะต้องอยู่สูงขึ้นไปอีกนาน

นาย เจอโรม เพาเวลล์ ประธานเฟด กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุม FOMC ในเดือน ธ.ค. โดยยอมรับว่า

ธนาคารกลางสหรัฐฯ จำเป็นต้องคงอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นนานเท่าไร โอกาสที่จะทำให้การแก้ปัญหาจบลงอย่างนิ่มนวล ก็ยิ่งจะทำได้ยากขึ้นเท่านั้น

- Advertisement -

พร้อมยอมรับว่า ไม่คิดว่าจะมีใครรู้ว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่ และถ้าเฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยสูง จะทำให้เศรษฐกิจถดถอยเพิ่มหรือไม่ก็ไม่มีใครรู้ได้

ทั้งนี้ เฟดคาดว่า อัตราดอกเบี้ยในปี 2023 อาจสูงถึง 5.1% และ GDP คาดว่าจะขยายตัวที่ 0.5% และอัตราเงินเฟ้อ PCE จะชะลอตัวลงเหลือ 3.1%

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Michael Burry ได้พูดถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย แม้จะมีข้อมูล จีดีพี ไตรมาส 3 ที่ดีเกินคาด แต่เขาคาดการณ์ว่าสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยหลายปีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Michael Burry ยังได้เน้นย้ำถึงทองคำว่า

“นี่เป็นเวลาของทองคำ ในการปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะตลาด crypto ยังคงมีความเสี่ยง หลังการล่มสลายของ FTX”

ที่มา : Kitco.com

- Advertisement -