- Advertisement -

สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 19 ต.ค.66

ทองไทยทำสถิติใหม่ที่ 33,600 บาท หลังบาทอ่อนค่า – gold spot แตะ $1,962 คาดสงคราม อิสราเอล-ฮามาส อาจยืดเยื้อ

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

.

.

- Advertisement -

รับชมคลิป สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้

ราคาทองคำไทย ยังคงสร้างสถติใหม่ต่อเนื่อง โดยเช้านี้ราคาแรกที่ สมาคมค้าทองคำ ประกาศเพิ่มขึ้นมาอีก 300 บาท

ทำให้ราคาขายออกสูงสุดตลอดกาลล่าสุดอยู่ที่ 33,600 บาท ส่วนราคารับซื้อ 33,500 บาท เงินบาท 36.42 บาทต่อดอลลาร์

โดยทองไทยได้แรงหนุนจากราคาทองคำ spot ที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้น อีกทั้งเงินบาทยังคงอ่อนค่า โดยเปิดตลาดเช้านี้อ่อนค่าจากเย็นวานนี้เกือบ 10 สตางค์ แต่เป็นการเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาคและตลาดโลก

เนื่องจากดอลลาร์ได้รับปัจจัยหนุนให้แข็งค่าจากการปรับขึ้นของบอนด์ยีลด์ที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 16 ปี ประกอบกับการเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยของนักลงทุนจากความกังวลเกี่ยวกับการสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ส่วนวันนี้คาดเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 36.30 – 36.55 บาท/ดอลลาร์

- Advertisement -

ทั้งนี้ SCT Gold มองว่า

ราคาทองไทยปิดแท่งรายวันยืนเหนือแนวต้าน all time high ได้สำเร็จ ส่งผลให้ไม่มีแนวต้านสำหรับราคาทองไทย หากราคากลับตัว สามารถรอปิดแท่งวันเพื่อ confirm การกลับตัว เมื่อราคาปิดต่ำกว่า 33,460 บาท มองว่าเป็นจุด cut loss ที่ดีและคุ้มค่าในมุมมอง risk per trade

การลงทุนทองไทยยังแนะนำเป็นการถือ position ฝั่งซื้อไว้ก่อน ยังไม่แนะนำสำหรับการสวนเทรนด์ short

หากยังไม่มี position ในมือ แนะนำเป็นการรอ setup ของราคา เนื่องจากโซนนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกลากต่อไปได้ โดยกรอบการเล่นอยู่ในโซน 33,460-34,000 บาท

ทั้งนี้ SCT Gold ให้แนวรับที่ 33,200 และ 33,000 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 33,550 และ 33,750 บาท

ขณะที่ราคาทองคำ spot วานนี้ (18 ต.ค.) ปิดบวกอีกมาอีก 25 ดอลลาร์ โดยราคาขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 1,962 ดอลลาร์ ก่อนจะวกกลับมาปิดตลาดที่ 1,947 ดอลลาร์

ทั้งนี้ ราคาราคาทองคำ spot ได้แรงหนุนจากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากการสู้รับระหว่างอิสราเอล-ฮามาส ส่อเค้ายืดเยื้อ หลังกลุ่มประเทศผู้สนับสนุนทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมช่วยเหลือเต็มที่

โดย ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวหลังหารือกับ นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ว่า ยืนยันถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน กับอิสราเอล และพร้อมส่งกองกำลังทหาร 2,000 นาย ไปยังตะวันออกกลาง

ขณะที่ สมเด็จพระราชาธิบดี แห่งซาอุดีอาระเบีย ได้เรียกประชุมฉุกเฉิน ระดับรัฐมนตรีของสมาชิกองค์กรความร่วมมืออิสลาม (OIC) ณ เมืองเจดดาห์ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ทางทหาร ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในฉนวนกาซาและโดยรอบ รวมถึงความมั่นคงและเสถียรภาพโดยรวมของภูมิภาคตะวันออกกลาง

ไปดูความเคลื่อนไหวของ กองทุน SPDR เช้านี้ขายทองคำออกมาอีก 7.21 ตัน ทำให้ในสัปดาห์นี้ SPDR ขายทองคำออกมาแล้วกว่า 14 ตัน รวมเดือนนี้ขายทองคำออกมาแล้ว 25 ตัน เหลือถือครองทองคำแค่ 848.24 ตัน ต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2020

ส่วนคืนนี้ จับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ก่อนที่การประชุม FOMC ในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.

นอกจากนั้น คืนนี้ยังมีตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจ เดือน ก.ย. โดย conference board

ไปดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในประเทศไทย

โดย Shining Gold Bullion ระบุว่า

วานนี้ ราคาทองคำ spot ได้ break 1,924 ดอลลาร์ ขึ้นมาได้ก็เกิด panic buy ต่อเนื่องทดสอบ 1,963 ดอลลาร์ ท่ามกลางสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอล และกลุ่มฮามาสที่ไม่สู้ดีนัก หลังเกิดเหตุโจมตีโรงพยาบาลในฉนวนกาซา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

โดย “โจ ไบเดน” มีการอ้างถึงหลักฐานของกระทรวงกลาโหม และระบุว่า กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ต้องถูกตำหนิจากเหตุดังกล่าว

ทั้งนี้ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ส่งสัญญาณว่าสหรัฐฯ สนับสนุนอิสราเอลอย่างเต็มที่ พร้อมประกาศสนับสนุนเงิน 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือกาซาและเวสต์แบงก์ ท่ามกลางคำประกาศของอิสราเอลที่พร้อมสำหรับการรุกรานภาคพื้นดิน ซึ่งคำพูดดังกล่าวของ โจ ไบเดน กลับทำลายความมั่นใจให้กับผู้นำอาหรับ

รัฐบาลของ นาย เนทันยาฮู ตกลงที่จะอนุญาตให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากอียิปต์ไปยังฉนวนกาซา ตราบใดที่มั่นใจได้ว่าจะไม่ไปถึงกลุ่มฮามาส พร้อมกันนั้น ยังเรียกร้องให้กาชาดเข้าถึงพื้นที่ด้วย ต้องติดตามสถานการณ์ต่ออย่างใกล้ชิด

กลยุทธ์การลงทุน ย่อตัวเสี่ยง open long ลงทุนสั้น เคร่งครัด stop loss ที่ 1,925 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้าน ที่ 1,955/1,968 และ 1,976 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,942-1,939/1,930 และ 1,915 ดอลลาร์

ขณะที่ T.D.C. Gold มองว่า

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อไปยังแนวต้าน 1,960 ดอลลาร์ ซึ่งมองว่า ระดับดังกล่าวเป็นแนวต้านสำคัญ โดยมีปัจจัยหลักมาจากความไม่สงบในอิสราเอลที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ จนทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น

และมองว่า จะเป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำในระยะกลาง จากแนวโน้มการคาดการณ์เรื่องขึ้นดอกเบี้ยที่คาดว่าจะขึ้นอีกครั้งในเดือน ธ.ค. ส่งผลให้ bond yield อายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นแตะ 4.9% และ อัตราดอกเบี้ยจำนอง (30 ปี) ปรับตัวสูงขึ้นแตะ 8% ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2007

ด้าน ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

หลังจากที่ราคาทองคำสามารถทะลุแนวต้าน 1,950 ดอลลาร์ ขึ้นมาได้ ทำให้ทิศทางราคาทองคำเป็นขาขึ้นในระยะยาว แต่ต้องติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด โดยทองคำมีแนวต้าน 1,962 และ 1,980 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับ 1,930 และ 1,920 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

ให้แนวรับรายวัน 1,916 และ 1,937 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านรายวันอยู่ที่ 1,969 และ 1,982 ดอลลาร์

- Advertisement -