- Advertisement -

สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 12 ต.ค.66

gold spot ขยับยืนเหนือ $1,870 ได้แรงหนุนจากสงครามและ bond yield ลดลง คืนนี้คาด CPI ไม่ขยับอาจหนุนทองคำต่อ

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

.

.

- Advertisement -

รับชมคลิป สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้

ราคาทองคำไทยเช้านี้ (12 ต.ค.) ราคาแรกที่ สมาคมค้าทองคำ ประกาศ เพิ่มขึ้น 50 บาท

ก่อนที่อีกครึ่งชั่วโมงถัดมาจะประกาศลดลง 50 บาท ทำให้ราคาขายออกล่าสุด (09.45 น.) อยู่ที่ 32,250 บาท ราคารับซื้อ 32,150 บาท เงินบาท 36.26 บาทต่อดอลลาร์

โดยวันนี้เงินบาทอาจแกว่งตัว sideway ไปก่อน เพื่อรอดูตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในคืนนี้ โดยวันนี้คาดเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 36.30-36.45 บาท/ดอลลาร์

ด้าน SCT Gold มองว่า

- Advertisement -

วันนี้ นักลงทุนยังคงรอลุ้นกับตัวเลขเศรษฐกิจหลาย ๆ ตัวที่จะประกาศออกมาจากทางฝั่งสหรัฐฯ ขณะที่ความไม่แน่นอนของทางฝั่งอิสราเอลยังคงมีน้ำหนักมากในการกำหนดทิศทางของราคาทองคำโลก ส่งผลให้ราคาทองคำไทยปรับตัวขึ้นมามากเช่นเดียวกัน

ทว่าปัจจัยในประเทศยังต้องจับตามองค่าเงินบาท เนื่องจากยังไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ 37.30 บาทต่อดอลลาร์ได้ ทำให้ราคาทองคำไทยยังคงขยับตัว sideway ไปอีกระยะ

โดยแนะนำให้ซื้อที่ราคาตลาด หรือ รอย่อซื้อที่แนวรับ โดยมีจุดทำกำไรอยู่ที่ 32,300 บาท เนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนยังคงสร้างความได้เปรียบให้ทองคำปรับตัวขึ้นต่อได้

โดยให้แนวรับราคาทองคำไทย ที่ 32,250 และ 32,000 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 32,400 และ 32,550 บาท

ขณะที่ราคาทองคำ spot เมื่อวานนี้ ปรับขึ้นแรงถึง 14 ดอลลาร์ ไปปิดตลาดที่ 1,874 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากสงครามอิสราเอล และกลุ่มฮามาส รวมถึง bond yield สหรัฐฯ ที่ลดลงมาแตะระดับ 4.581% ต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายท่านคนสนับสนุนให้เฟดยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

โดยในรายงานการประชุม FOMC เดือน ก.ย. กรรมการเฟดหลายคนมองว่า เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในการประชุมครั้งใดครั้งหนึ่งในปีนี้ แต่กรรมการอีกส่วนหนึ่งมองว่าเฟดไม่ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก

เพราะเมื่อพิจารณาถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน และภาวะในตลาดการเงินแล้ว เฟดควรจะดำเนินการอย่างระมัดระวังในการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในอนาคต โดยควรจะอิงตามข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับมา มากกว่าที่จะกำหนดแนวทางอัตราดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า

ส่วนความคืบหน้าการสู้รบระหว่าง อิสราเอลและกลุ่มฮามาส มีรายงานว่า นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้เดินทางไปยังอิสราเอลเพื่อยับยั้งไม่ให้สงครามในตะวันออกกลางลุกลามบานปลาย

โดยนายบลิงเกนมีกำหนดเข้าพบกับเจ้าหน้าที่อาวุโสหลายคนของอิสราเอล ซึ่งอาจรวมถึงนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู เพื่อหารือเกี่ยวกับการสนับสนุนทางทหารเพิ่มเติม

โดย นายบลิงเกนฯ จะทำงานร่วมกับพันธมิตรระดับภูมิภาคของสหรัฐฯ เพื่อพยายามปลดปล่อยตัวประกันมากกว่า 100 คน ที่อิสราเอลระบุว่าถูกกลุ่มฮามาสจับกุมตัวไว้ ซึ่งบางคนอาจเป็นพลเมืองสหรัฐฯ ต้องติดตามความคืบหน้าของเหตุการณ์นี้อย่างใกล้ชิด

ส่วนประเด็นเศรษฐกิจที่น่าสนใจวันนี้ สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน เท่ากับเดือนที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบรายปี ลดลงจากกเดือนที่ผ่านมาที่ระดับ 3.7%

ไปดูมุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในประเทศไทย

YLG Bullion มองว่า

มีแรงซื้อดันให้ราคาทองคำ spot ปรับตัวขึ้น หลังจากราคาอ่อนตัวลงในช่วงก่อนหน้า หากราคารักษาระดับไว้ หรือยังคงมีแรงซื้อสลับเข้ามาเพิ่ม แนะนำเสี่ยงเปิดสถานะซื้อทำกำไรระยะสั้น เมื่อราคาสามารถยืนเหนือโซนแนวรับ 1,858-1,839 ดอลลาร์ ตัดสถานะขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,839 ดอลลาร์ ทยอยปิดสถานะซื้อทำกำไร หากราคาผ่านแนวต้านบริเวณ 1,891-1,909 ดอลลาร์

ด้าน ShiningGold แนะกลยุทธ์การว่า

นักลงทุนระยะสั้น ยังคงพิจารณาย่อตัว open long ที่ 1,867 และ 1,860 ดอลลาร์ โดยลงทุนสั้นตามสถานการณ์ข่าวสงครามเป็นสำคัญ เคร่งครัด stop loss ที่ 1,855 ดอลลาร์ หากมีปัจจัยข่าวใด หรือ สถานการณ์ใดทำให้สัญญาณทางเทคนิคหลุดแนวดังกล่าว

โดย ShiningGold ให้แนวต้าน 1,880/1,885 และ 1,893 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,867/1,860 และ 1,848 ดอลลาร์

ขณะที่ ฮั่วเซ่งเฮง คาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำว่า

จะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ 1,880 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในช่วงปลายเดือน ก.ย. ถ้าผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,890 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับ 1,860 และ 1,850 ดอลลาร์

ปิดท้ายที่ ARR Goldtrading มองว่า

แรงซื้อเริ่มชะลอตัวลง ถึงแม้ว่าจะสามารถสร้างจุดสูงใหม่ได้ จึงมีโอกาสพักฐานเมื่อราคาทดสอบแนวต้านที่ 1,880 ดอลลาร์ โดยให้แนวรับ 1,860/1,850 และ 1,845 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,880/1,890 และ 1,900 ดอลลาร์

- Advertisement -