Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

เกาะติดทิศทางราคาทองคำวันนี้ 18 ต.ค.66 พูดคุยกับคุณวรุต รุ่งขำ YLG

- Advertisement -

1,644

- Advertisement -

เกาะติดทิศทางราคาทองคำวันนี้ 18 ต.ค.66

สัมภาษณ์พิเศษ คุณวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บจ.วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส (YLG)

gold spot กลับมาบวกเพิ่ม ขณะที่เงินบาทยังได้ลุ้นอ่อนค่าต่อ อาจดันทองไทยแตะ 34,000 บาทได้

ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

.

- Advertisement -

รับชมคลิป เกาะติดทิศทางราคาทองคำวันนี้

คุณวรุต รุ่งขํา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บจ.วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวกับ GoldAround ว่า

ปัจจุบันสถานการณ์การสู้รบระหว่าง อิสราเอลและกลุ่มฮามาส เริ่มตึงเครียดมากขึ้น หลังมีการโจมตีโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่ที่เมืองกาซา ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คน และทำให้เกิดความโกรธแค้นจากกลุ่มประเทศของโลกอาหรับ ก่อนจะเกิดการประท้วงหลาย ๆ พื้นที่ และอาจจะประเด็นที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นชนวนที่ทำให้สงครามลุกลามบายปลายได้

หากการพิสูจน์เป็นที่แน่ชัดว่าเป็นฝีมือของฝั่งอิสราเอล คาดว่ากลุ่มประเทศที่หนุนกลุ่มฮามาสอาจจะมีการตอบโต้ จึงเป็นอีกเหตุผลที่กระตุ้นการซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ส่วนราคาทองคำในประเทศที่ได้ขึ้นมาทำสถิติใหม่เช้านี้ที่ระดับ 33,250 บาท ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่ทรงตัวรักษาระดับการอ่อนค่าเอาไว้ และเมื่อราคาทองคำ spot ขยับขึ้นแรง ส่งผลให้ราคาทองคำแท่ง 96.5 ทำลายสถิติเดิมที่ 33,050 ลงได้

- Advertisement -

อย่างไรก็ตาม อีกสาเหตุที่ทำให้ราคาทองคำ spot เช้านี้ขยับขึ้นแรงมาแตะ 1,942 ดอลลาร์ สูงกว่าจุดสูงสุดของสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็คือ การรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ของจีน ที่ออกมาสูง แตะระดับ 4.9% ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นผลผลิตอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และอัตราการว่างงาน ดีเกินกว่าที่ตลาดคาดการณ์

ทำให้มองว่า ทิศทางเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ดังนั้นถ้าเศรษฐกิจจีนเริ่มมีเสถียรภาพ ทำให้เงินหยวนแข็งค่า ก็น่าจะทำให้แรงซื้อทองคำจากประเทศจีนมีมากขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนให้ราคาทองคำในช่วงเช้าวันนี้ดีดตัวเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากจะย้อนไปดูราคาทองคำ spot เมื่อวานนี้จะเห็นได้ว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นในกรอบจำกัด เพราะนักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังก่อนที่ประธานเฟดจะออกมากล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจของรัฐนิวยอร์กในคืนวันพฤหัสบดี

ซึ่งจะต้องมาดูว่าจะมีการพูดในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนโยบายดอกเบี้ยอย่างไรบ้าง รวมถึงสถานการณ์ความตรึงเครียดในตะวันออกกลาง เพราะจะเป็นการพูดครั้งสุดท้ายก่อนจะมีการประชุม FOMC ในช่วงต้นเดือนหน้า รวมถึงในสัปดาห์นี้ยังจะมีผู้ว่าการเฟด และประธานเฟดอีกหลายคนที่จะออกมาพูดถึงนโยยายการเงิน

คุณวรุตฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ดี มองว่าสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อทิศทางราคาทองคำในช่วงนี้ ซึ่งวันนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก็จะเดินทางไปเยือนอิสราเอลตามกำหนดเดิม แต่การประชุม 4 ฝ่ายที่ประเทศจอร์แดนจะถูกยกเลิกไป หลังเกิดการโจมตี รพ.ที่เมืองกาซา

ทั้งนี้ ในการลงทุนทองคำ spot มองว่าแนวโน้มทองคำในระยะสั้นยังเป็นบวกหรือเป็นอัพเทรนด์ค่อนข้างชัดเจน และยังมีลุ้นที่ทองคำจะไต่ระดับหรือปรับตัวขึ้นไปต่อ โดยแนวรับให้ไว้ที่ 1,919 และ 1,902 ดอลลาร์ แต่หากทองคำ spot ยังเคลื่อนไหวในอัพเทรนด์ชาแนล มองว่าจะขึ้นไปทดสอบ 1,952 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเดือน ก.ย.ได้ไม่ยาก

ส่วนในระยะกลาง เนื่องจากว่าราคาทองคำ spot ระดับรายเดือนของเดือน ต.ค. ยังมีการทำจุดต่ำสุดต่ำกว่าเดือนที่ผ่านมา และหากไปดูราคาทองคำในระดับรายเดือน แถวโซน 1,980 ดอลลาร์ ราคาได้ขึ้นไปชนหลายรอบแล้วยังไม่ผ่าน ก็เลยทำให้ภาพของทองคำในระดับรายเดือนยังมองว่าอาจจะเป็น sideway ถึงเป็นลักษณะของ sideway down

อย่างไรก็ตาม มองว่าจะต้องดูว่าในระยะถัดไปว่าราคาทองคำจะผ่าน 1,952 ดอลลาร์ ได้หรือไม่ หากผ่านไปได้ ภาพที่เป็น sideway down จะถูกเปลี่ยนเป็นที่ทาง sideway หรือการแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยแนวต้านสำคัญถัดไปก็จะอยู่แถว 1,987 และ 1,983 ดอลลาร์ ที่เป็นจุดสูงสุดของเดือน 6 และ 7 ซึ่งราคาได้ขึ้นไปชนระดับดังกล่าว 2 ครั้ง แต่ยังไม่ผ่าน ทำให้ต้องระวังแรงเทขายตามแนวดังกล่าวด้วย

อย่างไรก็ดี ในช่วงที่มีภาวะสงคราม ก็มีแนวโน้มที่ราคาจะทะลุแนวดังกล่าวได้ เพราะเป็นปัจจัยที่กระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่จะต้องมีปัจจัยพื้นที่เข้ามาประกอบ อาทิ เฟดปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินหรือ สถานการณ์สงครามยืดเยื้อรุนแรงยาวนาน

ทั้งนี้ หากว่าทองคำทะลุ 1,983 หรือ 1,987 ดอลลาร์ ขึ้นไป โอกาสที่จะขึ้นไปแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์ ก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะเมื่อมองย้อนไปช่วงที่เกิดสงคราม รัสเซีย-ยูเครน ราคาทองคำได้พุ่งทะลุระดับ 2,000 ดอลลาร์ ขึ้นไปแตะแถว 2,070-2,075 ดอลลาร์ ได้

แต่ต้องจับตาดูพัฒนาการและกระแสความวิตกกังวลของของนักลงทุนว่า สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะขยายวงกว้างมากน้อยแค่ไหน หากสหรัฐฯ ลงมาเล่นเต็มตัว กลุ่มฮามาสได้แรงหนุนจากกลุ่มประเทศมุสลิม อาจเริ่มมีการสู้รบที่ขยายวงกว้างเพิ่มมากขึ้น ก็จะทำให้นักลงทุนเริ่มมีความวิตกกังวลต่อปัญหาภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มมากขึ้น อาจจะคล้าย ๆ กับประเด็น รัสเซีย-ยูเครน

ส่วนราคาทองคำแท่ง 96.5 เนื่องจากตอนนี้ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์มีลักษณะของการทรงตัวรักษาระดับอ่อนค่าเอาไว้ ส่วนนึงมาจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องดิจิตัลวอลเล็ตที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้เงินบาทก็มีโอกาสอ่อนค่าได้อีก และเป็นปัจจัยบวกกับตัวราคาทองคำแท่ง 96.5

ทั้งนี้ ถ้าเงินบาทเคลื่อนไหวแถว 36.25 บาท ยังมองว่ากรอบระดับ 33,000 บาท และ 32,700 บาท เป็นจุดที่ยังสามารถเข้าซื้อเพื่อหวังทำกำไรจากการปรับตัว หรือการไต่ระดับขึ้นต่อของทองคำ spot ได้

เพราะถ้าราคาทองคำ spot ขึ้นไปแตะ 1,952 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุด เดือน ก.ย. คำนวณจาก 36.25 บาท คิดเป็นทองไทยก็ประมาณ 33,500 บาท

หากราคาขึ้นไป 1,961-1,969 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดือน ส.ค. คิดเป็นทองไทยประมาณ 33,850 บาท และหากขึ้นไปถึง 1,983 และ 1,987 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุด เดือน มิ.ย. และ ก.ค. คิดเป็นทองไทยแถว 34,000 บาท 34,200 บาท

หากราคาทองคำ spot ขึ้นไปถึง 1,983 และ 1,987 ดอลลาร์ และเงินบาทขยับไม่มาก ก็ยังมองว่าโซน 34,200 บาท ยังมีลุ้นได้เห็น

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐาน ก็คือ ราคาทองคำ spot และค่าเงินบาท ถ้าดูจากเรื่องของราคาทองคำ spot ยังมีทั้งแรงหนุนและแรงต้าน แต่ปัจจัยที่จะกลับมาหนุนทองคำแท่งของไทยให้ถึง 34,000 บาท น่าจะมาจากปัจจัยของค่าเงินบาท ที่มีโอกาสอ่อนค่าได้ต่อ หลังจากก่อนหน้านี้เงินบาทได้แข็งค่ากลับมาจากที่อ่อนค่าไปแตะ 37.25 บาทต่อดอลลาร์

ตอนนี้มาเคลื่อนไหวแถว 36.25-36.30 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้ยังมีช่องว่างที่จะขยับอ่อนค่าได้อีก แต่ทั้งนี้เงินบาทจะต้องไม่แข็งค่าหลุดระดับ 36.09 บาท ต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบนี้ลงไป โดยระยะสั้นมองว่าเงินบาทอาจจะขึ้นไปแตะระดับ 36.56-36.79 บาทต่อดอลลาร์ ได้ไม่ยาก

- Advertisement -

Comments are closed.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More