ทิศทางราคาและการลงทุนทองคำในสัปดาห์หน้า 25-29 มี.ค.67
พูดคุยกับ คุณพิพัฒน์ วชิรลาภไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ บจ.ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด หรือ SCT GOLD
ตลาดทองคำเข้าสู่โหมดพักเหนื่อย หากราคาทองคำ gold spot ไม่หลุด $2,145 ยังไปต่อได้ ด้านราคาทองคำไทย มีแนวรับแรกที่ระดับ 37,000 บาท
ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
.
รับชมคลิป ทิศทางราคาและการลงทุนทองคำในสัปดาห์หน้า
คุณพิพัฒน์ วชิรลาภไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ บจ.ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ เทรด กล่าวกับ GoldAround ว่า
สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดทองคำไทย และ gold spot แกว่งตัวผันผวนรุนแรง และทั้งคู่ได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยราคา gold spot ขึ้นแตะ 2,222 ดอลลาร์ ขณะที่ทองคำไทย ทำสถิติสูงสุดที่ 37,650 บาท
โดยราคาทองไทยได้แรงหนุนจากค่าเงินบาท ทำให้เดือน มี.ค. ปรับขึ้นไปแล้วร่วม 3,000 บาท ก่อนที่จะอ่อนตัวลงในช่วงวันศุกร์
เมื่อมาดูทางเทคนิค จะเห็นได้ว่า ในช่วงที่ราคาทองคำ gold spot ขึ้นแตะ 2,222 ดอลลาร์ ได้เข้าสู่ภาวะขายมากเกินไป และเกิดไดเวอร์เจนท์ในทุก time fame ทำให้นักลงทุนที่ถือสถานะซื้อมาตั้งแต่ 2,000 ดอลลาร์ ได้เทขายกำไร ทำให้ราคาลงมาปิดสัปดาห์ที่ 2,164 ดอลลาร์
ทั้งนี้ คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ ราคาที่ปรับลดลงมา ทำให้แนวโน้มกลับมาเป็นขาลง หรือแค่การพักตัว และการย่อตัวในรอบนี้จะลงลึกได้แค่ไหน
คุณพิพัฒน์ฯ มองว่า การที่ราคาทองคำปิดสัปดาห์ยังไม่หลุดแนว 2,145-2,150 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวรับจิตวิทยาที่สำคัญ ทำให้ยังต้องมารอดูทิศทางตลาดอีกครั้งว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไร
เพราะหากหลุดแนวดังกล่าวไป ราคาอาจจะลงไปพักตัวแถว 2,100 ดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นอีกแนวรับที่สำคัญ โดยจะมีแนวรับย่อยแถว 2,130 ดอลลาร์
ในทางกลับกัน หากว่าราคาดีดกลับไปยืนเหนือ 2,190 ดอลลาร์ ได้ ก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปถึง 2,300 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านย่อยถัดไปแถว 2,250 ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะเห็นทิศทางที่ชัดเจนได้ใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า
อย่างไรก็ดีเมื่อในภาพใหญ่ ทาง SCT Gold ยังมองว่า ทองคำ gold spot เป็นขาขึ้นอยู่
โดยเป้าหมายสำคัญ คือ 2,350 ดอลลาร์ แต่การที่ราคาได้ปรับขึ้นมาแรงอย่างต่อเนื่อง ก็มีโอกาสที่จะพักตัวแรงได้เช่นกัน
โดยหากราคาเลือกจะพักตัวในช่วง 3 เดือน ก่อนที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย หากว่าแนว 2,090 ดอลลาร์ รับไม่อยู่ อาจจะลงไปได้ถึง 2,000 ดอลลาร์
ในทางกลับกัน หากราคาลงไปไม่หลุด 2,100 ดอลลาร์ ในช่วงสงกรานต์ ราคาอาจจะกลับขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง
ประเด็นที่ต้องติดตาม ก็คือ ในช่วงที่ เฟดประกาศลดดอกเบี้ย ราคาอาจจะไปพุ่ง แต่อาจจะปรับลดลงแทน เพราะตลาดจะเกิดสภาวะ sale on fact ทั้งจากการฟังถ้อยแถลงของประธานเฟดล่าสุด เริ่มมีสัญญาณยอมรับว่า การจะกดเงินเฟ้อลงเหลือ 2% อาจจะเป็นเรื่องยาก โดยอาจจะขยับขึ้นมาที่ระดับ 2.4%
เพราะเฟดกังวลเรื่องของการขยายตัวของเศรษฐกิจ หากดอกเบี้ยยังอยู่ในอัตราที่สูงอยู่ ซึ่งประเด็นดังกล่าวทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรง และอาจจะทำให้ทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำกับดอลลาร์ หรือเงินบาทเปลี่ยนไป
สำหรับค่าเงินบาท ก็อยู่ในแนวโน้มอ่อนค่า โดยได้แรงหนุนจาก ข่าวที่ภาคเอกชนอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดดอกเบี้ย กับเรื่องนโยบายดิจิตัลวอลเล็ต ที่ถูกนำกลับมาพิจารณาอีกรอบ โดยล่าสุด เงินบาทอ่อนค่ามาแถว 36.40 บาท มาช่วยพยุงราคาทองไทยไม่ให้ปรับลดลงไปมาก
ทำให้นักลงทุนที่รอซื้อ ยังคงต้องรอต่อไป โดยแนวรับแรกมองไว้แถว 37,000 บาท แนวรับถัดไปแถว 36,500-36,800 บาท ส่วนเป้าหมายทำกำไร ยังมองไว้แถวจุดสูงสุดเดิม และแถว 37,800 บาท
ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้ายังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ คือ GDP และ PCE ซึ่งอาจจะทำให้ราคาแกว่วงตัวพอสมควร กลยุทธ์การลงทุนยังมองว่าหากยืน 2,190 ดอลลาร์ ไม่ได้ ยังเข้าโหมดพักตัว
ซึ่งหากราคาเด้งมาแถว 2,170-2,180 ดอลลาร์ ยังแนะนำเปิดสถานะขายไปปิดทำกำไรแถว 2,145 ดอลลาร์ เพื่อรอดูสถานการณ์ว่าจะลงต่อได้หรือไม่ ถ้ายังลงต่อแนวรับถัดไป 2,130 และ 2,100 ดอลลาร์ ซึ่งแนว 2,090-2,110 ดอลลาร์ คาดว่าน่าจะมีคนรอซื้อยู่จำนวนมาก
แต่ถ้าเปิดตลาดในช่วงต้นสัปดาห์หน้า ราคาเลือกที่จะไปต่อและยืนเหนือ 2,190 ดอลลาร์ ได้ เป้าหมายถัดไป คือ 2,250 ดอลลาร์ หากยังทะลุไปได้ ต้องมาดูปัจจัยที่เข้ามาหนุนว่ามีอะไรบ้าง
ต้องยอมรับว่า แม้ทองคำจะมีปัจจัยหนุนค่อนข้างมาก แต่ให้ระวัง เพราะอาจจะมีกับดักที่จะทำให้ราคาปรับลดแรงได้เช่นกัน เพราะในปีนี้มีเหตุการณ์สำคัญ ๆ มากมาย
โดยท่าทีของเฟด ที่พร้อมจะปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา รวมถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงปลายปี ซึ่งน่าจะเป็นไฮไลท์สำคัญ
Comments are closed.