สัมภาษณ์พิเศษ คุณภัทริน วชิรคพรรณ Chief Operation Officer บจ.เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ (LHC)

โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

gold spot ฟื้นตัวกลับมายืนเหนือ $4,000 พร้อมกลับไปทดสอบ ATH และอาจดันไปถึง $4,100 หลัง “ทรัมป์” ขู่เก็บภาษีจีน 100% เริ่ม 1 พ.ย.

คุณภัทริน วชิรคพรรณ Chief Operation Officer บจ.เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ กล่าวกับ GoldAround ว่า

ภาพรวมราคาทองคำ gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมายังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยปิดบวกอีก 130 ดอลลาร์ หรือ 3.35% ถึงแม้จะมีความผันผวนเข้ามาระหว่างสัปดาห์ โดยในวันพฤหัสปรับลดลงไปถึงลดลง 65 ดอลลาร์ หรือ 1.62% โดยราคาลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ 3,944 ดอลลาร์

ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาในช่วงท้ายตลาดคืนวันศุกร์ มาปิดตลาดที่ระดับ 4,016 ดอลลาร์ แม้ว่าราคาจะยังกลับไปยืนเหนือจุดสูงสุดของวันพฤหัสไม่ได้ แต่ภาพรวมรายสัปดาห์ยังแข็งแกร่งมาก และมีแนวโน้มจะขึ้นทดสอบ ATH เดิมที่ 4,059 ดอลลาร์ เพื่อขึ้นไปทดสอบระดับ 4,100 ดอลลาร์

ทั้งนี้ ราคาทองคำฟื้นตัวกลับมา หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าจะกำหนดอัตราภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 100% รวมถึงการควบคุมการส่งออกซอฟต์แวร์สำคัญทุกประเภท ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป หลังไม่พอใจที่รัฐบาลจีนประกาศมาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการผลิตแร่หายาก

และการประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่ขู่ว่าจะยกเลิกการประชุมกับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในการประชุม APEC ที่ประเทศเกาหลีใต้ในช่วงปลายเดือนนี้

“หลังการแสดงความเห็นดังกล่าว สินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดหุ้นสหรัฐ และบิตคอยน์ ต่างปรับราคาลงแรง สวนทางกับสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำที่ดีดตัวสวนขึ้นมายืนเหนือ 4,000 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง และต้องมาติดตามว่าในสัปดาห์หน้าราคาจะปรับขึ้นทำ ATH ใหม่ได้หรือไม่“ คุณภัทริน วชิรคพรรณ Chief Operation Officer บจ.เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ กล่าว

นอกจากนั้น ราคาทองคำยังได้แรงหนุนจาก เหตุการณ์ชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่ล่วงเข้าสู่วันที่ 10 แล้ว และยังไม่สามารถระบุได้ว่าเหตุการณ์นี้จะกินเวลาไปอีกนานแค่ไหน ทำให้การประกาศตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐต้องถูกเลื่อนออกไป และปัญหาดังกล่าวกำลังส่งผลต่อการจ้างงานของสหรัฐ เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศเมื่อวันศุกร์ (10 ต.ค.)ว่า ได้เริ่มต้นกระบวนการเลิกจ้างพนักงานของรัฐแล้ว

อีกปัจจัยหนุนราคาทองคำ ก็คือการคาดการณ์ปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ซึ่ง จาก Fed Watch Tool พบว่านักลงทุนน้ำหนักกว่า 90% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือน ต.ค.และธ.ค.

และเมื่อดูข้อมูลจากการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ประจำ เดือน ก.ย. ที่ระบุว่า กรรมการเฟดมีความเห็นตรงกันว่าความเสี่ยงที่มีต่อตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้นมากพอที่เฟดจะเห็นสมควรให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่กรรมการเฟดยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อสูง

มาดูมุมมองทางเทคนิค ราคา gold spot สัปดาห์ที่ผ่านมาราคายังคงทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง แม้ระว่างสัปดาห์เริ่มมีแรงขายทำกำไร กดดันทำให้เกิดความผันผวนภายในสัปดาห์แต่ก็ฟื้นตัวกลับ มาได้ยืนเหนือ 4,000 ดอลลาร์ได้ ต้องมารอดูว่าสัปดาห์นี้ราคาจะทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกหรือไม่ แต่ต้องระวังแรงขายที่อาจเกิดขึ้น หากราคาไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้

ทั้งนี้ ให้โซนแนวต้านสำคัญที่ 4,060-4,050 ดอลลาร์ และ 4,090-4,100 ดอลลาร์ ให้ระวังแรงขาย ณ โซนดังกล่าวหากเกิดสัญญาณกลับตัว ส่วนโซนแนวรับสำคัญอยู่ที่ 3,950-3,945 ดอลลาร์ และ 3,900-3,890 ดอลลาร์ หากราคาปรับตัวลงต่อและไม่หลุด 3,940 ดอลลาร์ พิจารณาเข้าซื้อ ณ โซนแนวรับเพื่อ Follow ภาพใหญ่ต่อไป

ส่วนราคาทองคำไทย

สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้นบาทละ 2,050 บาท โดยได้แรงหนุนจากราคาทองคำ gold spot ที่ปรับเพิ่มขึ้น และเงินบาทยังอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่า ทำให้ราคาราคาทองคำแท่งในประเทศที่สมาคมค้าทองคำประกาศเมื่อวันเสาร์ ( 11 ต.ค.) ปรับเพิ่มขึ้นอีก 250 บาท ทำให้ราคาขายออกอยู่ที่ 62,100 บาท ราคารับซื้ออยู่ที่ 62,000 บาท คำนวนจากค่าเงินบาทที่ 32.67 บาทต่อดอลลาร์

ส่วนสัปดาห์หน้า เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ ให้แนวรับราคาทองคำไทยที่ 61,600-61,500 บาท และ 61,000-60,800 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 62,800-63,000 บาท และ 63,400-63,500 บาท

รับชมคลิป