- Advertisement -

GOLD TALK : มองต่างมุม! เฟดเดินหน้านโยบายลดดอกเบี้ย จะดันราคาทองคำทะลุเพดานจริงหรือไม่? (รับชมคลิปด้านล่าง)

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประเด็นสำคัญที่ตลาดจับตามอง ก็คือ การปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ที่ได้ปรับมาใช้นโยบายการลดดอกเบี้ยและในการประชุมครั้งแรก ได้ประกาศลดดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% และอาจจะลดอีก 0.50% ในการประชุมที่เหลืออีก 2 ครั้งในปีนี้

ซึ่งจุดนี้เองถือว่ามีนัยยะต่อตลาดเงินตลาดทุนและตลาดทองคำ แต่จะเป็นอย่างไร ช่วง “GOLD TALK” จะพูดคุยกับคุณ ธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บจ.อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด

มาดูมุมมองของ คุณธีรรัฐฯ ว่า การที่เฟดตัดสินใจลดดอกเบี้ยแรงในครั้งแรกเลย สะท้อนถึงอะไรบ้าง และราคาทองคำจะได้อานิสงส์ หรือไม่อย่างไร

โดย คุณธีรรัฐฯ มองว่า การที่เฟดเริ่มลดดอกเบี้ยในระดับ 0.5% ถือว่าสร้างความประหลาดใจพอสมควร เพราะในช่วง 2-3 เดือนก่อนหน้านี้ ตลาดให้น้ำหนักว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยแค่ 0.25%

- Advertisement -

แต่ในช่วงปลายสัปดาห์ก่อนที่จะถึงการประชุม ได้มีประเด็นลด 0.50% เข้ามา และกระแสเริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ และสุดท้าย เฟดก็ประกาศลดดอกเบี้ย 0.50% พร้อมระบุว่าปีนี้จะลดอีก 0.5%

หลังการประกาศผลการประชุม ราคาทองคำ gold spot ได้พุ่งขึ้นแตะ 2,600 ดอลลาร์ ก่อนจะถูกเทกลับมาที่ 2,550 ดอลลาร์ แต่เมื่อวานนี้ (20 ก.ย.) ราคาได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดอีกครั้ง ที่ 2,625 ดอลลาร์

สิ่งที่น่าสนใจในรายละเอียดของการประชุม FOMC ในรอบนี้ นอกจากจะมีเรื่องการลดดอกเบี้ยลงแรงแล้ว ยังมีการปรับตัวเลข GDP ลง และเรื่องของตลาดแรงงานก็มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.4% แสดงว่า เฟดเห็นแนวโน้มตัวเลขเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดี จึงพยายามที่จะปรับลดดอกเบี้ยแรง เพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องของการจ้างงาน โดยเฟดค่อนข้างให้ความสำคัญกับตัวเลขการจ้างงานและตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ เมื่อมาดูว่าผลพวงจากการปรับลดดอกเบี้ยแรง แน่นอนว่าส่งผลดีต่อราคาทองคำทำให้ราคาปรับขึ้นแรง แต่หากว่าผลของการลดดอกเบี้ยได้ผลทำให้ไม่มีการฮาร์ดแลนดิ้ง หรือไม่มีเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย ราคาทองคำก็อาจจะไม่เคลื่อนไหวหวือหวาเหมือนในช่วงแรก มันจึงไม่ใช่เป็นสูตรสำเร็จว่า เมื่อลดดอกเบี้ยแล้วราคาทองคำจะปรับเพิ่มขึ้น

จากที่ดูผลการวิจัยที่มีการเก็บสถิติตั้งแต่ปี 1970 พบว่า ในช่วงที่เฟดลดดอกเบี้ย ไม่ได้ดันให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยราคาทองคำอาจจะปรับขึ้นหรือปรับลดลงก็ได้

- Advertisement -

เช่นเดียวกับช่วงที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูง แต่ราคาทองคำก็ไม่ได้ลดลง ในทางกลับกันยังสามารถขยับบวกต่อเนื่อง และยังเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูง ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ดังนั้น จึงต้องพิจารณาจากปัจจัยอื่น ๆ โดยรอบประกอบด้วย

นอกจากนั้น อยากให้จับตาผลพวงจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ แม้ว่านโยบายของผู้แข่งขันทั้ง 2 พรรคจะแตกต่างกัน แต่นโยบายที่ทั้งคู่มีเหมือนกันคือ การกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาแข็งแกร่ง ด้วยการจัดทำนโยบายในรูปแบบต่าง ๆ

“หากว่าผลการลดดอกเบี้ย และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจอเมริกาแข็งแกร่ง ก็อาจจะส่งผลดีต่อเงินดอลลาร์ให้กลับมาแข็งค่า และทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น เม็ดเงินก็อาจจะไหลไปตลาดหุ้นที่น่าสนใจมากกว่า และทองคำอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกแรก ๆ จะไม่เหมือนกันช่วงต้นปี ที่ราคาได้ปรับขึ้นอย่างร้อนแรงโดยได้หลายปัจจัยเข้ามาหนุน อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวแล้ว ยังมองว่าทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่ทรงประสิทธิภาพในยุคที่โลกเผชิญความเสี่ยงรอบด้าน”

อย่างไรก็ดี มุมมองและผลกระทบของการปรับลดดอเบี้ยของเฟด ในครั้งนี้ของนักวิเคราะห์ หรือผู้บริหารแต่ละบริษัทก็จะแตกต่างกันไป ในส่วนตัวมองว่า ในระยะแรกราคาทองคำอาจจะปรับเพิ่มขึ้น แต่คาดว่าอีกระยะราคาทองคำจะมีการปรับฐานแรง

ซึ่งต้องยอมรับว่า มุมมองดังกล่าวอาจจะขัดแย้งกับหลายคน โดยอาจจะคาดการณ์ผิดก็เป็นได้ สาเหตุที่มองเช่นนั้นเพราะเห็นว่าเศรษฐกิจอเมริกาจะยังไปต่อได้

แต่ทั้งนี้ ปัจจัยหนุนราคาทองคำยังคงมีอีกมาก อาทิ เรื่องของเงินเฟ้อ ต้องมาดูว่าหลังจากที่เฟดปรับลดดอกเบี้ยแล้วเงินเฟ้อจะกลับมาหรือไม่

นอกจากนั้น ก็คือ เรื่องความขัดแย้งในภูมิรัฐศาสตร์ในพื้นที่ต่าง ๆ ที่พร้อมจะปะทุตลอดเวลา รวมถึงอาจจะมีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง อย่างมีบริษัทยักษ์ใหญ่จากสหรัฐล้มละลายเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

ปัจจัยเหล่านี้ ก็จะดันให้ราคาทองคำขึ้นมาได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีข่าวอะไรแบบนั้นเกิดขึ้น ทำให้ในมุมส่วนตัวมองว่าระยะสั้นราคาทองคำน่าจะปรับฐานมากกว่า โดยอาจจะมีการเทขายแรง ๆ เพื่อรอปัจจัยหนุนใหม่เข้ามา

รับชมคลิป GOLD TALK

- Advertisement -