Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

GOLD TALK: YLG ชี้ปัจจัยดันทอง 2,700 ทองไทยย่อซื้อเก็บลุ้นบาทอ่อน

- Advertisement -

764

- Advertisement -

GOLD TALK : YLG ชี้ 3 ปัจจัยดันราคาทองคำแตะ $2,700 นโยบายเฟด – เลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ – สงคราม ด้านทองไทยย่อซื้อเก็บ ลุ้นเงินบาทอ่อนหนุนพุ่งตาม

หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้เริ่มปรับลดดอกเบี้ยหลังการประชุม FOMC เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำ gold spot ได้ปรับเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ (AllTimeHigh หรือ ATH ) ต่อเนื่อง

ล่าสุดวันนี้ (24 ก.ย.) ได้ขึ้นแตะระดับ 2,640 ดอลลาร์ และบทวิเคราะห์จากเกือบทุกสถาบันมองเป้าหมายเดียวกันคือที่ 2,700 ดอลลาร์ แต่ปัจจัยหนุนจะมีอะไรบ้างนอกจาก นโยบายดอกเบี้ยของเฟด

GOLD TALK ได้พูดคุยกับ คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจ.วายแอลจี บูลเลี่ยน เเอนด์ ฟิวเจอร์ส ถึงทิศทางราคาทองคำในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้

โดย คุณฐิภาฯ มองว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเริ่มลดดอกเบี้ยลง 0.5% และ มีแนวโน้มจะลดอีก 0.5% ถือเป็นภาพที่ดีต่อราคาทองคำ เพราะนอกจาก dot plot ระบุจะลดอีก 0.5% ในการประชุมในช่วงที่เหลือ 2 ครั้งในปีนี้แล้ว ก็อาจจะลดดอกเบี้ยอีก 1% ปีหน้า และจะลดอีก 1% ในปีถัดไป ทำให้เห็นได้ว่านโยบายของเฟดหลังจากนี้จะลดดอกเบี้ยลงต่อเนื่อง

- Advertisement -

ดังนั้น แนวโน้มราคาทองคำหลังจากนี้ดูดีแน่นอน โดยหลังจากนี้หากสามารถปักหลักเหนือ 2,600 ดอลลาร์ได้อย่างแข็งแกร่ง แนวต้านถัดไปก็คือ 2,650 ดอลลาร์ และ 2,700 ดอลลาร์ และในท้ายที่สุดก็คือ 3,000 ดอลลาร์

อย่างไรก็ดี ในระหว่างทางก็อาจจะมีการเทขายทำกำไร หรือการปรับฐานในระดับประมาณ 100 ดอลลาร์ อาจจะมากกว่า หรือน้อยกว่านั้นเล็กน้อย ก่อนจะปรับตัวขึ้นต่อไป

การที่เฟดได้ปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกมากขึ้น 0.5% แม้ว่าหลายคนอาจจะมองว่ามากเกินไป แต่ความเป็นจริงเฟดน่าจะเริ่มลดดอกเบี้ยมาตั้งแต่ช่วงกลางปีแล้ว เพราะหากจะดูตัวเลขการจ้างงาน ตัวเลขเงินเฟ้อ ก็น่าเป็นห่วง หรือแม้กระทั่งหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ก็ยังอยู่ในระดับสูง ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เฟดตัดสินใจเริ่มลดดอกเบี้ยแรง

ขณะที่ในเดือน พ.ย.จะมีการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็อาจจะทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวนอีกรอบ

นอกจากเรื่องเฟดลดดอกเบี้ยที่จะส่งผลบวกต่อราคาทองคำแล้ว อยากให้จับตาการเคลื่อนไหวของกองทุนต่างชาติ โดยเฉพาะกองทุนทองคำ อย่าง SPDR ที่ได้ซื้อทองคำเข้าติดต่อกันมาเกือบ 2 เดือน

- Advertisement -

และในสัปดาห์ที่ผ่านมาซื้อทองคำเพิ่มประมาณ 5 ตัน ทำให้เห็นแนวโน้มราคาทองคำได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเห็นว่าในช่วงกลางปีที่ผ่านมาปรับลดลง ทาง SPDR ได้เทขายทองคำออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากที่ราคาเริ่มขยับขึ้น SPDR ก็เริ่มซื้อทองคำเช่นกัน

ส่วนปัจจัยหนุนในช่วง 4 เดือนที่เหลือปีนี้ นอกจากเรื่องการลดดอกเบี้ยของเฟดแล้ว ยังต้องจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ซึ่งมองว่าไม่ว่าจะเป็นตัวแทนจากพรรเดโมแครต หรือรีพับลิกันได้รับชัยชนะก็ยังส่งผลบวกกับทองคำ แต่น่าจะทำให้ราคาผันผวน เพราะจากการเก็บสถิติของสภาทองคำโลก พบว่า ในช่วงก่อนเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง 6 เดือน ราคาจะผันผวนประมาณ 10-15% บวก เพราะอาจจะมีเรื่องเกี่ยวกับนโยบายใหม่ ๆ ที่ออกมา

อีกปัจจัยที่ยังทิ้งไม่ได้ก็คือ สถานการณ์ความตึงเครียดตะวันออกกลางที่คาดว่าจะยังมีการสู้รบต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับว่าจะมีความรุนแรงมากน้อยเพียงไร ยิ่งรุนแรงมากราคาทองคำยิ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น

ส่วนปัจจัยกดดันก็คือ ต้องมาดูว่าการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดจะเป็นตามที่ตลาดคาดการณ์หรือไม่ หากว่าปรับลดน้อยกว่าคาดการณ์ ก็อาจจะเป็นแรงกดดันทองคำได้ แต่ยังมองว่าการต่อตัวก็จะไม่ลึกมาก

ขณะที่ ราคาทองคำไทยยังต้องระมัดระวังเรื่องของค่าเงินบาท จะเห็นได้ว่าช่วงเดือนเศษ ๆ ที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาก ก่อนหน้านี้เงินบาทอยู่ที่ประมาณ 36 ถึง 37 บาท แต่ตอนนี้ลงมาอยู่แถว 32.90 บาท และยังมีโอกาสที่ยังจะแข็งค่าอยู่ ซึ่งจะกดดันให้ราคาทองคำไทยยังไม่ได้ ATH

อย่างไรก็ดี ในส่วนของการลงทุนทองไทย ถ้าเห็นจังหวะการย่อตัวลงมาอยากจะให้ซื้อสะสม โดยอาจจะรอแถว 39,900 หรือ 40,000 บาท หรือหากจะเทียบเป็นราคา gold spot แนวรับแรกแถว 2,600 ดอลลาร์ รับถัดไปเนี่ย 2,570 ดอลลาร์ และ 2,550 ดอลลาร์ ซึ่งมองว่าราคาไม่น่าหลุดลงไปมากนี้

ซึ่งการลงทุนทองคำ อยากจะให้แบ่งระยะการเข้าซื้อเป็น 3 ช่วง โดยให้ทยอยเข้าซื้อเมื่อราคาปรับลดลง เพราะไม่สามารถได้ซื้อในจุดที่ต่ำที่สุดได้ อย่างน้อยก็ควรจะมีทองคำติดมือไว้บ้างเมื่อราคาย่อตัวลง

แต่ทั้งนี้ ยังอยากจะย้ำอีกครั้งว่า การบริหารพอร์ตการลงทุนถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ และควรจะมีทองคำประมาณ 10-15 % ของพอร์ต ที่เหลือแบ่งเป็นสินทรัพย์อื่น ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง

รับชมคลิป GOLD TALK

- Advertisement -

- Advertisement -

Comments are closed.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More