- Advertisement -

แม้ว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา จนสามารถขึ้นมาปักหลักเหนือ 1,780 ดอลลาร์ ได้ แต่นักวิเคราะห์ของ Commerzbank ธนาคารจากประเทศเยอรมัน เตือนนักลงทุนว่า การฟื้นตัวของทองคำยังดูเปราะบาง

Carsten Fritsch , precious metals analyst ของ Commerzbank กล่าวว่า

ราคาทองคำพุ่งขึ้นเกือบ 200 ดอลลาร์ ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย. เนื่องจากตลาดตอบสนองต่อแผนการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะเริ่มในเดือน ธ.ค.

ทำให้วัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจึงใกล้สิ้นสุดเข้ามาทุกที และทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อ่อนค่าลงอีกครั้ง ดังนั้น จึงเป็นช่วงเวลาของทองคำ

อย่างไรก็ดี Fritsch เตือนว่า

- Advertisement -

แม้เฟดฯ จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย แต่ไม่ได้จะปรับเปลี่ยนนโยบายอย่างถาวร ทำให้ในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน อาจเป็นเรื่องยากสำหรับราคาทองคำที่จะรักษาระดับเหนือ 1,800 ดอลลาร์ เพราะแม้ว่าวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะสิ้นสุดลงในอนาคตอันใกล้ แต่อัตราดอกเบี้ยอาจจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงไปอีกระยะ

ทั้งนี้ Fritsch มองว่า นักลงทุนต้องให้ความสนใจกับอัตราดอกเบี้ยในเดือนสุดท้ายของปีนี้ มากกว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

ซึ่งจากข้อมูลของ FedWatch Tool ของ CME ตลาดมองว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะผลักดันอัตราดอกเบี้ยของ Fed Funds ไปที่จุดสูงสุดระหว่าง 5.00% ถึง 5.25%

โดยเฟดเชื่อว่า ระดับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเป็นสิ่งจำเป็น ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นอีกครั้ง และทองคำจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันที่หนักเช่นเคย

มีความเสี่ยงที่ราคาทองคำ จะทดสอบแนวรับอีกครั้งที่ 1,750 ดอลลาร์ ในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดย Fritsch ขยายความว่า

- Advertisement -

แม้ราคาทองคำจะพุ่งขึ้น แต่ก็ยังมีความลังเลใจในตลาด โดยทองคำน่าจะเริ่มไต่ขึ้นอีกครั้งหลักจากได้เห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟด ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า และคาดว่าราคาทองคำจะสิ้นสุดในปีหน้าที่ประมาณ 1,800 ดอลลาร์

ที่มา : Kitco.com

- Advertisement -