gold spot ถูกเทแต่ไม่หลุด $3,000 ยังได้ลุ้นไป $3,100 แรงหนุนมีอีกเพียบ พร้อมแนะลงทุนด้วยความระวังขั้นสุด

คุณภัทริน วชิรคพรรณ Chief Operation Officer บจ.เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์ กล่าวกับ GoldAround ว่า

ภาพรวมการเคลื่อนไหวของ ราคา gold spot ได้ปิดตลาดแดนบวก พร้อมทำ ATH ต่อเนื่อง 7 วันทำการตั้งแต่กลางสัปดาห์ก่อนหน้า ก่อนจะมาถูกเทขาย 2 วันสุดท้ายของสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยลงไปแตะจุดต่ำสุด 2,999 ดอลลาร์ ก่อนจะได้แรงซื้อช่วงท้ายตลาดทำให้ราคาวกกลับมาปิดตลาดได้ที่ 3,023 ดอลลาร์ แต่หากมองในภาพรายสัปดาห์ราคายังปิดบวก 41 ดอลลาร์

ดังนั้นทำให้ต้องจับตาการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์หน้าใกล้ชิด เพราะหากมองในเชิงเทคนิคยังถือว่ายังไม่ปลอดภัย แม้ว่าจะมีแรงซื้อในช่วงท้ายตลาดเมื่อวันศุกร์ แต่ต้องมาดูว่าราคาจะสามารถปักหลักยืนเหนือแนว 3,020 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคงหรือไม่

หากยืนได้มีโอกาสจะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 3,057 ดอลลาร์ หากยังผ่านไปได้แนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ 3,070 ดอลลาร์ และมีโอกาสขึ้นไปแตะ 3,100 ดอลลาร์ได้ไม่ยาก

แต่หากยืน 3,020 ดอลลาร์ไม่ได้ ราคาอาจลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเมื่อวันศุกร์ หากรับไม่อยู่แนวรับถัดไปอยู่ที่ 2,980 ดอลลาร์ และ 2,950 ดอลลาร์ ตามลำดับ และหากยังรับไม่อยู่มีโอกาสลงไปทดสอบ 2,920 ดอลลาร์

“ทั้งนี้ยังมีโอกาสที่ราคาจะลงพักตัวลึกได้ เพราะหลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี จนไปทำ ATH ที่ 3,057 ดอลลาร์ รวมแล้วกว่า 400 ดอลลาร์ ราคายังไม่มีการพักฐานใหญ่เลย ดังนั้นหากราคาจะปรับลดลงระดับ 100-120 ดอลลาร์ ก็มีโอกาสเป็นได้ จึงอยากนักลงทุนวางแผนด้วยควารมระมัดระวัง” คุณ ภัทริน กล่าว

อย่างไรก็ดีราคาทองคำยังมีแรงหนุนค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความขัดแย้งนจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รัสเซีย-ยูเครน , อิสราเอล-ฮามาส ,สหรัฐ- กลุ่มฮูตี ซึ่งมีการสู้รบกันดุเดือน แม้บางจุดจะมีการลงนามนสัญญาหยุดยิงชั่วคราวไปแล้วก็ตาม

ขณะที่นโยบายกำแพงภาษีของ ปธน.ทรัมป์ คาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีการเจรจาต่อรองกันกับหลายประเทศ ก่อนที่สหรัฐจะเริ่มใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับทุกประเทศที่เก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.

นอกจากนั้นยังต้องจับตาผลกระทบจาก นโยบายกำแพงภาษี โดยเฉพาะเรื่องของภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่ส่อแววว่าจะเผชิญกับภาวะถดถอย ซึ่งที่ประชุม FOMC เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการปรับคาดการณ์การเติบโตทางศก.ของสหรัฐลง ,ปรับเพิ่มอัตราการว่างงาน และยังมองว่าเงินเฟ้อจะยังอยู่ในระดับสูงต่อไป ทำให้ DotPlot ระบุว่าปีนี้มีโอกาสที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย0.25% จำนวน 2 ครั้ง ขณะที่ ปธน.ทรัมป์ ก็ได้กดดันให้เฟดปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อรับมือผลกระทบนโยบายภาษีรอบใหม่

ขณะเดียวกันต้องจับตาการเคลื่อนไหวของ กองทุน SPDR กองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ล่าสุดวันนี้ ( 22 มี.ค.) ได้ซื้อทองคำมากถึง 20.08 ตัน ที่ระดับ 3,022 ดอลลาร์ ทำให้ขณะนี้ กองทุน SPDR ถือครองทองคำทั้งสิ้น 930.51 ตัน โดยปีนี้กองทุน SPDR ซื้อทองคำเข้าประมาณ 58 ตัน

ส่วนในสัปดาห์หน้านอกจากจะต้องติดตามความคืบหน้าเรื่องต่างๆ ในข้างต้นแล้ว ยังต้องติดตามตัวเลขศก.สำคัญ โดยวันจันทร์จะมีการประกาศดัชนี PMI ส่วนวันพฤหัสจะมีตัวเลข GDP ของสหรัฐ และวันศุกร์จะมีดัชนี Core PCE Price Index ซึ่งถือเป็นตัวเลขเงินเฟ้ออีกหนึ่งตัวที่มีความสำคัญ

มาดูภาพทางเทคนิค gold spot ราคาทองขึ้นมาทำจุดสูงสุดครั้งใหม่ต่อเนื่องที่ ระดับ 3,057 ดอลลาร์ภายในสัปดาห์ หลังจากนั้นมีการปรับฐานเล็กน้อยลงมาทดสอบที่ระดับ 3,000 ดอลลาร์ ในคืนวันศุกร์ โดยยังไม่หลุดแนวดังกล่าว ทำให้ภาพรวมราคายังคงวิ่งในกรอบ super bullish ต่อเนื่องมาจากต้นปี

มีโซนแนวต้านสำคัญที่ 3,060-3,070 ดอลลาร์ และ 3,090-3,100 ดอลลาร์ หากราคากลับขึ้นมาเหนือโซน 3,040 ดอลลาร์ มีโอกาสขึ้นไปเพื่อทดสอบแนวต้านใหม่และทำ จุดสูงสุดได้ต่อ

ส่วนโซนแนวรับสำคัญอยู่ที่ 2,995-2,985 ดอลลาร์ และ2,965-2,955 ดอลลาร์ และ 2,930 ดอลลาร์ ให้พิจารณาหากราคาหลุดกรอบ 3,000 ดอลลาร์ ยังคงมีแนวรับเหล่านี้เพื่อรอเข้าซื้อ Follow ภาพใหญ่ต่อไป

ส่วนราคาทองคำแท่ง 96.5 สมาคมค้าทองคำได้ประกาศราคาขายออกเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ลดลง 100 บาท ทำให้ราคามาอยู่ที่ 48,500 บาท ส่วนราคารับซื้ออยู่ที่ 48,400 บาท คำนวนจากค่าเงินบาทที่ 33.92 บาทต่อดอลลาร์

ส่วนแนวต้านราคาทองคำไทยในสัปดาห์หน้าอยู่ที่ 48,800-49,000 บาท และ49,200-49,300 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 48,200-48,000 บาท และ 47,800-47,700 บาท

รับชมคลิป