สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 2 ธ.ค.67
gold spot-ทองคำไทย ปิดเดือนพ.ย.ลดลงแรง ลุ้นเดือน ธ.ค.จะพลิกกลับหรือจะร่วงต่อ จับตา ตัวเลขจ้างงาน – FOMC – สงคราม
ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
ภาพรวมราคาทองคำไทยเดือน พ.ย.ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลงไปบาทละ 900 บาท ขณะที่เปิดเดือนใหม่ซึ่งเป็นเดือนสุด ท้ายของปี ในช่วงครึ่งวันแรกยังปรับลดลงต่อเนื่อง
โดย สมาคมค้าทองคำ ประกาศ (2 ธ.ค.) ปรับลดลงครั้งละ 50 บาท 4 ครั้ง
ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 ณ เวลา 13.45 น. อยู่ที่ 42,900 บาท ส่วนราคารับซื้อ 42,800 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 43,400 บาท ส่วนราคารับซื้อ 42,023.52 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 34.54 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า
ราคาทองคำแท่งเคลื่อนไหวบริเวณ 43,000 บาท ทั้งนี้หากราคาทองคำแท่งไม่ผ่านบริเวณ 43,250 บาท ขึ้นไปได้ อาจมีการย่อตัวระยะสั้น แต่คาดว่าบริเวณแนวรับ 42,600 บาท อาจมีการฟื้นตัว ทั้งนี้การเข้าซื้อรอบใหม่แนะนำรอบริเวณ 42,600 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 43,200 และ 43,300 บาท
ไปดูภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot เดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ปิดลดลงไป 95 ดอลลาร์ เป็นการปิดในแดนลบครั้งแรกในรอบ 9 เดือน
ขณะที่สัปดาห์สุดท้ายของเดือน พ.ย.ที่ผ่านมาปิดลดลงไป 66 ดอลลาร์ มาปิดตลาดแถวปิดตลาด 2,650 ดอลลาร์ ก่อนที่เช้าวันนี้ราคาจะลงมาทดสอบแถว 2,620 ดอลลาร์ ต้องมาดูว่าจะลงมาทดสอบ 2,605 ดอลลาร์ ที่เป็นจุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่ผ่านมาหรือไม่ หรือลงไปทดสอบ 2,536 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของเดือน พ.ย.หรือไม่
ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาก็คือ ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ที่ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงแต่ยังต้องจับตาสถานการณ์ใกล้ชิด เพราะมีรายงานจากเลบานอนว่า อิสราเอลได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงหลายครั้งนับตั้งแต่เริ่มมีผลบังคับใช้ ขณะที่ความขัดแย้งในฝั่งรัสเซีย-ยูเครน ก็ยังมีการสู้รนบต่อเนื่อง โดยมีรายงานว่ารัสเซียได้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลังงานยูเครน
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์ที่ผ่านมาก็คือตัวเลขเงินเฟ้อ Core PCE ที่กลับมาเร่งตัวสูงขึ้น ซึ่งต้องมาดูว่าจะส่งผลต่อการตัดสินใจของ FED ในการปรับลดดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ช่วงกลางเดือนนี้มากน้อยเพียงไร เพราะล่าสุดนักลงทุนยังให้น้ำหนักกว่า 60% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบนี้
อย่างไรก็ดีสัปดาห์นี้ยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญเพิ่มเติม โดยวันนี้ (จันทร์ 2 ธันวาคม ) จะมีตัวเลข ดัชนีภาคการผลิตเดือน พ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)
ขณะที่วันอังคารที่ 3 ธันวาคม มีตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนต.ค.
ส่วนวันพุธที่ 4 ธันวาคม จะมีตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย.จาก ADP และ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จาก S&P Global และ ดัชนีภาคบริการเดือน พ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM)
ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม มีจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม จะมีตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย. คาดการณ์จะอยู่ที่ 202,000 ราย จากเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 12,000 ราย ขณะที่อัตราการว่างงานเดือน พ.ย. อยู่ที่ 4.2% จากเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 4.1%
มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทยทาง Shining Gold ระบุว่า
การปิดกราฟราคาทองคำรายสัปดาห์และรายเดือนไม่สู้ดีนัก ตามหลักการทางเทคนิคจะเป็นลักษณะรีบาวน์เพื่อลง แต่ท่ามกลางความเสี่ยงสงครามที่หลากหลาย ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลจาก “โจ ไบเดน” ไปเป็น”โดนัล ทรัมป์” คู่กรณีสงครามแต่ละแห่งก็พยายามจะแสดงศักยภาพ เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองให้ได้มากที่สุดก่อนที่คุณโดนัลด์ ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
หากว่าสถานการณ์บานปลายและเลวร้ายก็สามารถเปลี่ยนทิศทางของเทคนิคได้ แต่หากยังอยู่ในการควบคุมตลาดคาดการณ์ได้ การเปลี่ยนกราฟเสียทางเทคนิคให้เป็นกราฟดีก็ยังคงยากอยู่
กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น รอราคารีบาวด์ ให้ Open Short ที่ 2,671-2,673 ดอลลาร์ เคร่งครัด SL ที่ 2,684 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 2,638/2,622 และ 2,608 ดอลลาร์
ด้าน InterGOLD มองว่า
เช้านี้ราคาทองคำไทยหลุด 43,000 บาท ลงมาแล้วหลังเดือนพฤศจิกายน กราฟรายเดือนทองคำปิดติดลบใหญ่ ๆ ครั้งแรกในรอบ 1 ปี ทำให้ในเดือนธันวาคมนี้มีโอกาสที่ราคาทองจะปรับตัวลงได้อีก
แนะนำให้ไม่ต้องรีบเข้าซื้อทองคำมากนัก ให้ทยอยสะสมในราคาที่ตัวเองพอใจที่สามารถถือยาวได้ แนะนำโซน 42,000-42,500 บาท และให้เผื่อเงินไว้หากราคาหลุดลงถึงบริเวณ 41,000 บาท
แนวโน้มเชิงเทคนิคราคารายเดือนพฤศจิกายนปิดแบบมีโมเมนตั้มในการขายแรงมาก ดังนั้นใน ช่วงต้นเดือนธันวาคมอาจได้เห็นแรงเทขายต่อเนื่อง
เป้าระยะสั้นอยู่ที่ 2,600 ดอลลาร์ หรือ 42,700 บาท และระยะยาวอยู่บริเวณ 2,350-2,414 ดอลลาร์ หรือ 41,000 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,660 ดอลลาร์ หรือ 43,400 บาท
ส่วน T.D.C. Gold ระบุว่า
ในวันศุกร์ปริมาณการซื้อ-ขายในตลาดการเงินน้อยกว่าปกติอันเนื่องมาจากวัน Black Friday ซึ่งตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้นนำโดยหุ้นกลุ่มชิป หลังจากรัฐบาลมีแผนจำกัดการส่งออกชิปยังประเทศจีนในทีท่าประนีประนอมมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้หุ้นกลุ่มซิปปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นยกแผง
ขณะที่ราคาทองคำยังทรงตัวโดยปรับตัวขึ้นในช่วงแรกก่อนที่จะย่อตัวลงมาอีกครั้ง และยังมองราคาปรับตัวลดลงแบบ Sideway down
ปิดท้ายที่ Ausiris
มองในทางเทคนิคว่าภาพรวมราคาทองคำ gold spot ไม่สามารถปิดเหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหลายใน TF4H หรือแถว 2,650-2,663ดอลลาร์ได้ ทำให้ฝั่งขายกลับมาได้เปรียบตลาด และราคาทองคำ gold spot มีแนวโน้มกลับไปเคลื่อน ไหวในกรอบ 2,625-2,607 ดอลลาร์อีกครั้ง
ทั้งนี้ให้แนวรับราคาทองคำ gold spot ที่ 2,620 และ 2,607 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,640 และ 2,650 ดอลลาร์
รับชมคลิป
Comments are closed.