- Advertisement -

สรุปแนวโน้มราคาทองคำและกลยุทธ์ลงทุน วันนี้ 25 ต.ค.67

gold spot ดีดตัวกลับแต่ไม่แรงมากพอ ก่อนมาวิ่งในกรอบรอดูข่าวก่อนเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ ทองไทยขยับลง 50 บาท บาทยังอ่อนค่าต่อ

ดำเนินรายการ โดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com

ราคาทองคำไทย วันนี้ (25 ต.ค.)  สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาแรกของวันลงมา 50 บาท

ทำให้ราคาขายออกทองคำแท่ง 96.5 อยู่ที่ 43,600 บาท ส่วนราคารับซื้อ 43,500 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณราคาขายออก 44,100 บาท ส่วนราคารับซื้อ 42,720.88 บาท คำนวณจากเงินบาทที่ 33.74 บาทต่อดอลลาร์

- Advertisement -

โดย ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า

ราคาทองคำแท่งอาจมีการปรับตัวลงเล็กน้อย ขณะที่ค่าเงินบาทชะลอการอ่อนค่าลง อย่างไรก็ตามคาดว่าราคาทองคำแท่งยังคงปรับตัวลงไม่มากนัก เนื่องจากยังได้รับปัจจัยหนุนจากดอกเบี้ยขาลงความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาตร์ และทิศทางเงินบาทเริ่มกลับมาอ่อนค่า รอจังหวะการเข้าซื้อรอบใหม่

โดยให้แนวรับแถว 43,400 และ 43,250 บาท ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 43,700 และ 43,750 บาท

ภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ gold spot วานนี้ (24 ต.ค.) รีบาวด์แรง มาแตะจุดสูงสุด 2,743 ดอลลาร์ ก่อนย่อตัวมาปิดตลาดที่ 2,736 ดอลลาร์ โดยรวมเพิ่มขึ้นมา 21 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำได้แรงซื้อในทางเทคนิคเข้ามาหนุนแต่การฟื้นตัวอยู่ในกรอบจำกัด ไม่ผ่านจุดสูงสุดเดิมจากวันก่อนหน้า และยังทำจุดต่ำสุดใหม่หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์

ทั้ง ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 47.8 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 47.3 ในเดือนก.ย. โดยดัชนี PMI ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงอยู่ในภาวะหดตัว

- Advertisement -

ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.3 สูงสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 55.2 ในเดือน ก.ย. โดยดัชนี PMI อยู่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการขยายตัว รวมถึงจำนวนผู้รับขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ลดลงกว่าที่ตลาดคาดการณ์

มุมมองการลงทุนจากบริษัทค้าทองคำในไทย ทาง Shining Gold  มองว่า

วานนี้ราคาทองคำเคลื่อนตัวในโหมด Sideway พยายามลดทอนความตึงตัวของ Indicators จะพักฐานลงก็ไม่มาก จะปรับตัวขึ้นต่อก็ไม่แรง

ดังนั้นการลงทุนจึงเป็นไปภายในกรอบ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาสินทรัพย์ต่าง ๆ ในตลาดเคลื่อนไหวกันร้อนแรงเพราะมีการคาดการณ์ข่าวต่าง ๆ นานา ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งสหรัฐฯ หากสังเกตอาการตลาดดี ๆ ในช่วงนี้หลายสินทรัพย์เริ่มมีการสวิงที่น้อยลงเมื่อเปรียบเทียบกับ 1–2 สัปดาห์ก่อนหน้า จากสินทรัพย์ที่เคยขึ้นอย่างต่อเนื่องเริ่มชะลอการขึ้น แต่ยังไม่พบสัญญาณกลับตัวทำให้ Sentiment ตลาดดูน่ากลัวมากกว่าปกติ

กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นรอราคาย่อตัว ให้ Open Long ที่ 2,727 และ 2,705 ดอลลาร์ มีจุด SLที่ 2,697 ดอลลาร์ ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 2,746/2,753 และ 2,763 ดอลลาร์

ด้าน InterGOLD ระบุว่า

IMF เตือน สหรัฐฯ – จีน ควรร่วมมือทางด้านการค้าไว้ไม่ควรมีสงครามการค้าที่รุนแรงมากจนเกินไป เพราะจะทำให้เงิน เฟ้อกลับมาอีกครั้งนึง ยิ่งไปกว่านั้นจะทำให้เศรษฐกิจโลกอาจจะเติบโตน้อยลง

โดย IMF ได้เจาะจงถึงนายโดนัล ทรัมป์ ถึงนโยบายการเรียกเก็บภาษีจากจีนที่แสนแพง ซึ่งจะทำให้สินค้าที่นำเข้ามาสู่สหรัฐฯ แพงตามไปด้วย และจะส่งผลให้ประชาชนต้องบริโภคสินค้าจำเป็นที่แพงขึ้น

ในฝั่งนโยบายการเงินอาจตรึงเครียดมากขึ้นถ้าทาง Donald Trump ขึ้นมาเป็น ปธน เนื่องจากนโยบายของทรัมป์เองจะดันเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวขัดขวางต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และจะนำไปสู่สภาพคล่องในตลาดที่ปรับตัวลดลง โดย Bond Yield ได้นำตลาดในระยะสั้นไปแล้ว โดยการดีดมากว่า 0.5% ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาและดัชนีดอลลาร์กลับมาแข็งค่าอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุนราคาทองคำอาจจะปรับตัวขึ้นได้ ถ้า “ทรัมป์” ชนะการเลือกตั้งในวันที่ 5 พ.ย นี้ แต่จะไม่ใช่การขึ้นในระยะยาวจะเป็นการขึ้นเพื่อให้ราคาทองคำปรับฐานแรง

แนะนำถ้าราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงแนะนำขายไปก่อนและไปซื้ออีกครั้งหลังการเลือกตั้ง ปธน. โดยแนวรับอยู่ที่ 2,690 ดอลลาร์ หรือ 43,200 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 2,750 ดอลลาร์ หรือ 43,700 บาท

ขณะที่ YLG Bullion มองว่า

หลังจากราคาฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้างยังคงมีแรงขายกดราคาเข้ามาเพิ่ม หากราคาไม่สามารถเคลื่อนไหวเหนือแนวต้านแรกได้หรือการปรับตัวขึ้นอยู่ในระดับจำกัด

แนะนำเปิดสถานะขายหากปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านโซน 2,735-2,739 ดอลลาร์

ทั้งนี้อาจพิจารณาปิดสถานะขายทำกำไร หากราคาปรับตัวลงไม่หลุดแนวรับโซน 2,714-2,708 ดอลลาร์ แต่หากยืนไม่ได้อาจถือสถานะขายต่อ พร้อมลดการลงทุนหากราคาผ่านแนวต้าน 2,758 ดอลลาร์

ปิดท้าย เล่งหงษ์ คอมโมดิตีส์

ให้แนวรับรายวันที่ 2,689 และ 2,717 ดอลลาร์ แนวต้านรายวันที่ 2,752 และ 2,782 ดอลลาร์

รับชมคลิป

- Advertisement -