ราคาทองคำ เคลื่อนไหวต่ำกว่า $1,900 ในสัปดาห์นี้ หลังเกิดการเทขายในวันศุกร์ ทำให้ความเชื่อมั่นในหมู่นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทลดลง แต่นักลงทุนรายย่อยยังมองเป็นขาขึ้น แต่ยังลังเลที่จะเข้าตลาด
Phillip Streible, chief market strategist ของ Blue Line Futures กล่าวว่า
นักลงทุนมีเหตุผลที่แตกต่างกัน ว่าทำไมถึงต้องการซื้อทองคำ บางคนกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ในขณะที่คนอื่น ๆ กังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของเงินดอลลาร์ นี่คือสัญญาณของความแข็งแกร่งพื้นฐานของทองคำ
แต่นักวิเคราะห์บางคนสังเกตว่า ทองคำยังมีความเสี่ยงด้านขาลง เนื่องจากนักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า โมเมนตั้มที่พุ่งสูงขึ้นในตลาดแรงงานของสหรัฐฯ อาจบีบให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ คงนโยบายที่แข็งกร้าวนานกว่าที่คาดไว้
ในสัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์ของ Wall Street จำนวน 18 คนเข้าร่วมการสำรวจทองคำของ Kitco News
โดย 8 คน หรือ 44% มองว่าทองคำเป็นขาลงในระยะเวลาอันใกล้นี้ อีก 3 คน หรือ 17% มองยังเป็นขาขึ้น ที่เหลือ 7 คนหรือ 39% เห็นว่าราคาซื้อขายในลักษณะ sideway
ส่วนนักลงทุนทั่วไป 740 คนที่ร่วมโหวตทางออนไลน์
ในจำนวนนี้ มี 461 คน หรือ 61% มองว่าทองคำจะปรับตัวขึ้น อีก 183 คน หรือ 25% ระบุว่าจะราคาจะลดลง ที่เหลือ 106 คน หรือ 14% ระบุว่าเป็นกลางในระยะเวลาอันใกล้นี้
แนวโน้มทองคำยังคงผันผวน เนื่องจากในช่วงท้ายสัปดาห์ลดลง 3.5% โดยการขายออกส่วนใหญ่มาในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ สัปดาห์ที่แล้ว
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าทองคำเป็นขาลง ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยมองสวนทาง ด้วยราคาทองคำที่ลดลงอย่างแข็งแกร่งต่ำกว่า 1,900 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์จำนวนมากจึงเฝ้าดูแนวรับที่ประมาณ 1,850 ดอลลาร์
Marc Chandler managing director ของ Bannockburn Global Forex กล่าวว่า
การปรับฐานของทองคำ อาจคงอยู่ไปจนถึงวันที่ 14 ก.พ. เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อครั้งถัดไป ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะตัดสินใจใช้อัตราดอกเบี้ยที่แข็งกร้าวต่อไป โดยเป้าหมายของตนคือ การทะลุต่ำกว่า 1,865 ดอลลาร์ และ มุ่งไปที่ 1,830-1,850 ดอลลาร์
ขณะที่ Darin Newsom senior technical analyst ของ Barchart.com กล่าวว่า
แนวรับ 1,850 ดอลลาร์ อาจเป็นจุดแรกในการปรับฐานครั้งนี้ จากนั้นจะเป็น 1,811.50 ดอลลาร์
ที่มา : Kitco.com
Comments are closed.