แม้ว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ จะไม่มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อมากนัก แต่จากแนวโน้มในช่วงที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายค่อนข้างกังวล
แม้ว่าประธานเฟด และนักเศรษฐศาสตร์บางคน จะยังมั่นใจว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงในปัจจุบัน จะเป็นเพียงแค่เงินเฟ้อชั่วคราว และจะค่อย ๆ ลดลง ซึ่ง เฟด จะยังไม่ปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน แต่ก็มีอีกหลายคนที่เห็นต่าง และได้เตือนให้ปรับแผนการลงทุน เพื่อรองรับกับสิ่งที่จะเปลี่ยนไป
Kevin Flanagan, head of fixed income at WisdomTree กล่าวกับ Kitco News ว่า ไม่คิดว่าอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันที่สูงกว่า 5% จะยั่งยืนในระยะยาว และก็ไม่คิดว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับไปสู่ระดับต่ำกว่า 2% ก่อนเกิดการระบาดของ ไวรัส โควิด-19 เช่นกัน โดยมองว่าอัตราเงินเฟ้อน่าจะอยู่ที่ประมาณ 3% หรือ 4% เนื่องจากมีปริมาณเงินจำนวนมากจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ธนาคารกลางและรัฐบาลกลางได้อัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อระยะยาวที่สูงขึ้น
Kevin Flanagan กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่ออัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าระดับปกติ ธนาคารกลางสหรัฐฯ จำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษ และลดโครงการซื้อพันธบัตรรายเดือนลง จากที่ปัจจุบันซื้อทรัพย์สินมูลค่า 120,000 ล้านดอลลาร์ ต่อเดือน และอาจจะเหลือ 85,000 ล้านดอลลาร์ ต่อเดือน เหมือนกับในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินเมื่อปี 2008
นอกจากนั้น Kevin Flanagan ยังมองว่าด้วยอัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะสูงขึ้น และเฟดจะต้องปรับนโยบายการเงิน จึงคาดว่าคาดว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ จะเพิ่มกลับไปที่ 2% ภายในสิ้นปีนี้ แม้ว่าในขณะนี้ จะเห็นการฟื้นตัวของพันธบัตร ทำให้อัตราผลตอบแทน 10 ปี กลับลงมาสู่ระดับต่ำสุด เท่ากับจุดเริ่มต้น ซึ่งมองว่าเป็นการปรับฐานทางเทคนิค จากที่มีการขายมากเกินไป
Kevin Flanagan กล่าวเสริมว่า
แม้ว่าผลตอบแทนพันธบัตรจะกลับไปสูงถึง 2% แต่นักลงทุนยังคงสูญเสียเงิน เมื่อมีอัตราเงินเฟ้อรวมอยู่ด้วย ทำให้นักลงทุนจึงต้องปรับกลยุทธ์ เพื่อหาผลตอบแทนเพิ่มเติม โดยมองว่าการจัดสรรพอร์ตการลงทุนแบบเดิม คือ 60 ต่อ 40 จะไม่สามารถใช้การได้อีกต่อไป โดยอาจจะต้องปรับมาเป็น การลงทุน 70% รายได้คงที่ 20% สินทรัพย์ทางเลือก 5%
พร้อมแนะนำว่า ในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อกำลังเพิ่มขึ้น สินค้าโภคภัณฑ์อย่าง “ทองคำ” และ อสังหาริมทรัพย์ เป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่น่าสนใจ
ขณะเดียวกัน Kevin Flanagan ยังได้มองถึง การประชุมประจำปีของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ Jackson Hole ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมว่า เฟด อาจจะประกาศแผนนโยบายการเงินที่เข้มงวดยิ่งขึ้น พร้อมเตือนให้นักลงทุนพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งแม้ว่าจะไม่ถอนทั้งหมด แต่คาดว่าจะต้องปรับลดลง เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และในอนาคต
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.