สถานการณ์ราคาทองคำยังไม่น่าไว้วางใจ แม้เช้านี้จะมีแรงรีบาวด์ขึ้นมาเล็กน้อย กูรูหลายสำนักมองภาพรวมต่างกัน ชี้เมื่อ FED คิดจะขึ้นดอกเบี้ยย่อมส่งผลลบต่อราคาทองคำ แต่อีกฝ่ายยังเชื่อว่าส่วนหนึ่งเป็นแรงขายหลังก่อนหน้านี้ราคาดีดแรงต่อเนื่องทำให้มีโอกาสฟื้นตัวได้ ส่วนราคาทองคำในประเทศเช้านี้บวกเพิ่ม บาทละ 100 บาท หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงบาทละ 1,150 บาท
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำได้ปรับลดลงแรงอย่างต่อเนื่องทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 เดือนครึ่ง ที่ระดับ 1,761 ดอลลาร์ ถือเป็นสัปดาห์ที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่มี.ค.ปี 2020 เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 2 เดือน หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ 1 ปีขณะที่ประธานเฟดแถลงว่ากรรมการเฟดได้เริ่มหารือที่จะปรับลดวงเงินQE (อ่านรายละเอียดข่าวเพิ่มเติม..)
นอกจากนั้น ประธาน เฟด สาขาเซนต์หลุยส์ ยังออกมาระบุว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้นักลงทุนปรับเพิ่มการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน ธ.ค. 2022 และมีโอกาสที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งภายในปี 2023 โดยสะท้อนได้จากสัญญา Eurodollar Futures ซึ่งเป็นตัวชี้วัดการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในตลาด
แต่กองทุน SPDR ได้ซื้อทองคำเพิ่ม 11.07 ตันในช่วงวันสุดท้ายของสัปดาห์ ซึ่งเป็นการถือครองทองคำเพิ่มมากสุดนับตั้งแต่ 15 ม.ค. และสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของปีนี้(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม..)
ขณะที่การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงเช้าวันนี้ ได้มีแรงรีบาวด์กลับมาเล็กน้อย ทำให้ราคามาอยู่แถว 1,775 ดอลลาร์ (ดูกราฟราคาทองคำ) ทำให้สถานการณ์โดยรวมยังไม่น่าไว้วางใจมากนัก ทั้งนี้จากผลจากการประชุม FED ยังทำให้ในบรรดานักวิเคราะห์ยังมีความเห็นที่แตกแยก
บางกลุ่มมองว่าทิศทางราคาทองคำเป็นขาลงชัดเจน แต่บางกลุ่มยังมองว่าเป็นการลงในทางเทคนิค และแนวโน้มเงินเฟ้อยังมากขึ้น โดย Christopher Vecchio, senior market strategist with DailyFX.com ให้ความเห็นว่ากับ Kitco news ว่า ไม่ได้คาดหวังว่าราคาทองคำจะกลับไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ภายในสิ้นปีนี้ หลังราคาได้ดิ่งทะลุทุกแนวรับทำให้เกิดความเสียหายทางเทคนิคราคา แต่ยังมองว่าตลาดก้ยังไม่ได้กลับไปเป็นขาลง โดยในระยะสั้นราคาทองคำจะพักตัว ก่อนที่ตลาดจะกลับมาเป็นฝั่งซื้ออีกครั้ง
ขณะที่ นางสาว ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวกับ GoldAround.com ว่าผลการประชุม FED ทำให้ทิศทางราคาทองคำเป็นลบมากขึ้น และถือเป็นกระบวนการแรกของการกลับไปดำเนินนโยบายการเงินแบบปกติของ FED หากการฟื้นตัวเศรษฐกิจดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และจะเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำในที่สุด ทำให้นักลงทุนต้องระมัดระวังในการถือครองทองคำมากยิ่งขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ (อ่านรายละเอียดฉบับเต็ม..)
มาดูราคาทองคำในประเทศที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำ เช้านี้บวกเพิ่มบาทละ 100 บาท หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำในประเทศได้ปรับลดลงถึงบาทละ 1,150 บาท โดยราคารับซื้อทองคำแท่งเช้านี้อยู่ที่บาทละ 26,400 บาทขายออกบาทละ 26,500 บาท (ดูตารางราคาทองคำของสมาคมค้าทองคำ)
สัปดาห์นี้ติดตามจีดีพีสหรัฐไตรมาส 1 และดัชนีราคา PCE พื้นฐานของสหรัฐเดือนพ.ค. การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธปท. สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะประกาศสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมิ.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.
ขณะที่วันนี้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ แต่แนะนำติดตามถ้อยแถลงของนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดนิวยอร์ก
ดูการคาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหวราคาทองคำวันนี้
แนวรับ 1,761 ดอลลาร์ 1,749 ดอลลาร์ และ1,733 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,787 ดอลลาร์ 1,803 ดอลลาร์ และ 1,826 ดอลลาร์
จุดซื้อ 1,766 ดอลลาร์ หรือ บาทละ 26,350 บาท
จุดขาย 1,782 ดอลลาร์ หรือ บาทละ 26,550 บาท
แนวรับ 1,760 ดอลลาร์ และ1,750 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,780 ดอลลาร์ และ 1,800 ดอลลาร์
แนวรับ 1,755 ดอลลาร์ 1,740 ดอลลาร์ และ1,730 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,780 ดอลลาร์ 1,800 ดอลลาร์ และ 1,820 ดอลลาร์
แนวรับ 1,764 ดอลลาร์ 1,759ดอลลาร์ และ1,754 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,779 ดอลลาร์ 1,784 ดอลลาร์ และ 1,789 ดอลลาร์
หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ซื้อ-ขาย หรือลงทุน หรือเป็นเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ และอาจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และหรือ ความเสียหายที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.