- Advertisement -

หลังจากที่ นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้ให้สัมภาษณ์ว่าอาจจะต้องปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ร้อนแรงเกินไป ซึ่งได้ส่งผลต่อตลาดการลงทุนโดยเฉพาะราคาทองคำได้ลดลงแรง ก่อนที่เจ้าตัวจะออกมาแก้ข่าวโดยระบุว่า ไม่ได้คาดการณ์หรือให้คำแนะนำว่าเฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมระบุว่า เคารพในความเป็นองค์กรอิสระของเฟด

นายธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด กล่าวกับ GoldAround.com ถึงท่าทีของ “เจเน็ต เยลเลน” โดยเชื่อว่าเจ้าตัวคงจะเห็นสัญญาณอะไรบางอย่างที่กำลังจะเป็นอันตรายต่องเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องเงินเฟ้อ

ในมุมมองส่วนตัว เชื่อว่าหากเกิดเงินเฟ้อในรอบนี้ จะรุนแรงมาก และอาจจะเกินกว่าที่จะควบคุมไว้ได้ ดังนั้น การขึ้นดอกเบี้ยก็อาจจะช่วยสกัดไว้ได้ แต่อาจจะค่อย ๆ ขยับขึ้น ปีละ 0.25% เพื่อแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งส่วนตัวยังเชื่อว่า เฟด อาจจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยก่อนปี 2023”

“ต้องยอมรับว่า เศรษฐกิจอเมริกา เตรียมจะกลับมาร้อนแรง เพราะกำลังจะเปิดประเทศเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากได้ฉีดวัคซีนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ได้ในวงกว้าง ประกอบกับมีตลาดค่อนข้างใหญ่ และมีอินโนเวชั่นใหม่ ๆ อีกมาก ดังนั้น เมื่อเศรษฐกิจอเมริกากำลังจะกลับร้อนแรง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นการกลับมาขึ้นดอกเบี้ย ส่วนการจะลด QE นั้น มองว่าน่าจะเกิดขึ้นในปีหน้า เพราะ ปธ.เฟด ระบุชัดเจนว่า ปีนี้จะไม่ดำเนินการอะไรทั้งสิ้น ดังนั้น ภาพรวมของราคาทองคำปีนี้ยังคงไปได้” นายธีรรัฐฯ กล่าว

- Advertisement -

อย่างไรก็ดี เมื่อมองจากวิธีการดำเนินงานในอดีต ก่อนที่จะมีการขึ้นดอกเบี้ย เฟด ก็จะต้องลด QE ก่อน ซึ่งจะส่งผลต่อราคาทองคำโดยตรง แต่ในครั้งนี้ อาจจะไม่เหมือนที่ผ่านมา เพราะการทำ QE ในรอบนี้ ใช้ปริมาณเงินมหาศาล และบริบทที่เกี่ยวข้องก็ไม่เหมือนกัน ทำให้ผลกระทบที่เกิดขึ้น กับราคาทองคำอาจจะไม่เหมือนในครั้งที่ผ่าน ๆ มา โดยเฉพาะต้องมาดูว่านักลงทุนมีความความเชื่อมั่นในดอลลาร์มากน้อยเพียงไร หากยังไม่มีความเชื่อมั่นมากพอ ก็อาจจะต้องกระจายความเสี่ยงไปถือสินทรัพย์ที่มีความน่าเชื่อถือ และมีความมั่นคงอย่างทองคำ หรือ สินทรัพย์ตัวอื่น ๆ ซึ่งอาจจะพยุงไม่ราคาทองคำร่วงลงแรง

กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ ได้กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในระยะสั้นว่า ในเชิงเทคนิค ราคาทองคำยืนเหนือค่าเฉลี่ย และยืนเหนือเทรนด์ขาลงในบางจุดแล้ว โดยราคาทองคำเคลื่อนไหว sideways ในกรอบ 1,760-1,800 ดอลลาร์ มาประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว จึงมองว่าหากไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,800 ดอลลาร์ให้ได้ภายใน 7 วัน จะไม่ส่งผลดีกับราคาทองคำ โดยเชื่อว่าวันศุกร์นี้น่าจะเป็นตัวชี้วัด หากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาดี ราคาทองคำก็อาจจะร่วงลงไปก่อน แล้วจึงดีดกลับขึ้นมา เพราะเชื่อว่าจะมีแรงซื้อจากนักลงทุนที่เข้ามาซื้อเก็บเพื่อลงทุนในระยะ 1-2 ปี เข้ามาหนุน เพราะฉะนั้นยังมองว่า “ขาขึ้น” ยังได้เปรียบ

รับชมคลิป

ขอขอบคุณ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด

- Advertisement -