ราคาทองคำร่วงหนักกว่า $60 ลงมาแตะจุดต่ำสุด $1,717 ทำให้ราคาทองคำในประเทศเช้านี้ปรับตัวลดลงบาทละ 250 บาท ทำให้ราคาทองคำในเดือน ก.พ. ลดลงไปกว่า 110 ดอลลาร์ วันนี้จับตาความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นศก. วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์
สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำประจำวันที่ 27 ก.พ. 2564
ทองคำแท่ง
รับซื้อ บาทละ 25,000.00 บาท ขายออก บาทละ 25,100.00บาท
ทองรูปพรรณ
รับซื้อ บาทละ 24,544.04 บาท ขายออก บาทละ 25,600.00 บาท
ราคาทองคำเมื่อวานนี้ลดลงมากถึง 62 ดอลลาร์ จากที่เปิดตลาดที่ระดับ 1,780 ดอลลาร์ มาปิดที่ 1,718 ดอลลาร์ โดยราคาราคาทองคำได้เริ่มปรับตัวลดลงมาตั้งแต่ช่วงบ่าย วันที่ 25 ก.พ.จากระดับ 1,800 ดอลลาร์ ลงมาแตะที่ระดับ 1,780 ดอลลาร์ ก่อนที่เมื่อวานนี้ราคาจะขยับไซด์เวย์ดาวน์ แถว 1,775 ดอลลาร์ และได้ทิ้งตัวลงแรงมาแตะจุดต่ำสุดที่ 1,717 ดอลลาร์เมื่อช่วงดึกของคืนวันศุกร์ ก่อนจะขยับขึ้นมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,735 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา(ดูกราฟการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ..)
ขณะที่ราคาในประเทศไทย เมื่อวานนี้ได้ขยับขึ้นลงถึง 9 ครั้ง ขยับลดลง 6 ครั้ง รวมบาทละ 400 บาท ขยับขึ้น 3 ครั้ง รวม 150 บาท ทำให้เมื่อวานนี้ราคาทองคำในประเทศลดลงบาทละ 250 บาท ส่วนราคาทองคำในประเทศเช้านี้ ที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำ ลดลงบาทละ 250 บาท
ปัจจัยที่กดดันราคาทองคำยังคงเป็นการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อายุ 10 ปีของสหรัฐ และดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น เมื่อคืนนี้แตะ 90.8690 เพิ่มขึ้น 0.82% ซึ่งท้ง 2 ปัจจัยทั้ง 2 ได้กดดันราคาทองคำมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ราคาทองคำในเดือน ก.พ.ลดลงกว่า 110 ดอลลาร์ จากราคาเปิดของเดือนอยู่ที่ 1,847 ดอลลาร์ มาปิดที่ 1,734 ดอลลาร์ และหากนับจากราคาทองคำที่แตะจุดสูงสุดของเดือน ก.พ. ที่ระดับ 1,871 ดอลลาร์ มาสู่จุดต่ำสุดของเดือนที่ระดับ 1,717 ดอลลาร์ ทำให้ราคาต่างกันถึง 154 ดอลลาร์
ขณะที่ SPDR ยังเทขายทองคำต่อเนื่อง โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ขายออกมาอีก 6.70 ตัน ทำให้เดือนนี้ SPDR ขายทองคำออกมาแล้วเกือบ 70 ตัน ถือว่ามียอดขายติดลบแบบรายเดือนมาสุดในรอบเกือบเกือบ 10 ปี (อ่านความเคลื่อนไหวล่าสุดของ SPDR..)
อย่างไรก็ดีวันนี้(27 ก.พ.)ก็ยังมีเรื่องให้ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด หลังมีรายงานว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเตรียมพิจารณาลงมติต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ในวันนี้และคาดว่าจะผ่านไปได้ เนื่องจากพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาฯ จากนั้นเรื่องจะถูกส่งเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา ก่อนที่จะให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามรับรองเป็นกฎหมาย โดยกระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นก่อนวันที่ 15 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จะหมดอายุลง
ก่อนหน้านี้ สภาคองเกรสให้ความเห็นชอบต่อแนวทางการพิจารณาอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ โดยใช้แนวทางการจัดทำงบประมาณที่เรียกว่า budget reconciliation ทำให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวสามารถผ่านสภาคองเกรสโดยไม่จำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน
ทั้งนี้ พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาล่างของสหรัฐ ส่วนในสภาสูงทั้ง 2 ฝ่าย มีคะแนนเสียงเท่ากัน 50-50 เสียง ดังนั้นการที่วุฒิสภาจะให้การอนุมัติมาตรการดังกล่าว จำเป็นต้องอาศัยคะแนนเสียงชี้ขาด 1 เสียงจากนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งจะลงคะแนนเสียงในฐานะประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง นอกจากนี้ ยังมีเงื่อนไขว่า วุฒิสมาชิกสังกัดพรรคเดโมแครตจะไม่สามารถแตกแถวแม้แต่เสียงเดียว
หมายเหตุ : เนื้อหาข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การชักชวนให้ซื้อ-ขาย หรือลงทุน หรือเป็นเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ และอาจะไม่สะท้อนถึงความเห็นของ GoldAround.com ทั้งนี้ทีมงานไม่ยอมรับความผิดในความสูญเสีย และหรือ ความเสียหายที่เกิดจากการใช้ข้อมูลข้างต้น
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.