Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

YLG ชี้ราคาทองคำทรุดส่งผลระยะสั้น แต่เรื่องเงินเฟ้อจะดันทองคำพุ่งยาว

- Advertisement -

273

- Advertisement -

หลังจากที่เมื่อวานนี้ราคาทองคำร่วงลงกว่า 100 ดอลลาร์ หลัง Pfizer และ BioNTech ออกมาระบุถึงความสำเร็จในการทดลองวัคซีนต้าน COVID-19 และพร้อมจะยื่นจดทะเบียนวัคซีน ต่อ FDAในช่วงสัปดาห์หน้า และคาดว่าจะมีการผลิตวัคซีน 50 ล้านโดสภายในปีนี และ 1.3 พันล้านโดสในปีหน้า

ทั้งนี้การลดลงของราคาทองคำในตลาดโลก บวกรวมกับการแข็งค่าของค่าเงินบาท ส่งผลกดดันราคาทองคำในประเทศให้ดิ่งลงมากถึง 1,200 บาทต่อบาททองคำ สู่ระดับ 27,000 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา  อย่างไรก็ดีตลอดทั้งวันราคายังสามารถกลับมายืนได้ค่อนข้างมั่นคง โดยขยับขึ้น-ลง ในกรอบ 1,860-1,890 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาในประเทศขยับขึ้นเล็กน้อย มาปิดที่ ซื้อเข้า บาทละ 27,050 บาท ขายออกบาทละ 27,150 บาท

“หลังการปรับตัวลงแรงของราคาทองคำ ประเมินว่าระยะสั้นราคาจะดีดตัวกลับ โดยแนวต้านแรกจะอยู่ที่ 1,893 ดอลลาร์ และ 1,902-1,901 ดอลลาร์เป็นแนวต้านถัดไป หากการดีดตัวยังไม่สามารถกลับไปยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวยังต้องระวังว่าเป็นเพียงการปรับตัวขึ้นเพื่อลงต่อ ดังนั้นอาจใช้จุดดังกล่าวในการแบ่งขายในระยะสั้น”นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวกับ GoldAround.com

ขณะที่แนวรับแรกจะอยู่ที่บริเวณ 1,859 ดอลลาร์ หากหลุดราคาจะลงต่อเพื่อทดสอบแนวรับถัดไป และถือเป็นแนวรับสำคัญบริเวณ 1,851-1,847 ดอลลาร์ซึ่งหากหลุดจะบ่งชีว่าการปรับฐานยังไม่จบและราคาจะลงลึก ดังนั้นจึงแนะนำเข้าซื้อ หากราคาไม่หลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,851-1,847 ดอลลาร์ แต่หากหลุดอาจ Stop loss ขายออกบางส่วนในกรณีที่รับความเสี่ยงได้น้อย

- Advertisement -

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG  ได้แนะนำกลยุทธ์ในการลงทุนว่า  ผู้ที่มีทองคำในมือ หากถือสถานะเป็นจำนวนมาก แนะนำให้รอจังหวะการดีดตัว แล้วลดสถานะการถือครองทองคำลงบางส่วนด้วยการขายทำกำไรบริเวณแนวต้านเพื่อลดความเสี่ยง

ส่วนผู้ที่ไม่มีทองคำอยู่ในมือ ประเมินว่าการปรับตัวลงของราคาทองคำยังคงเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเช่นเดิม เพราะดูเหมือนจะเร็วไปที่นักลงทุนจะวิตกเกี่ยวกับการร่วงลงอย่างหนักของราคาทองคำเมื่อวานนี้  

“ทั้งนี้อยากให้มองภาพรวมเพราะปัจจัยพื้นฐานเชิงบวกที่เคยหนุนทองคำในปีนี้ ยังมีแนวโน้มจะดำเนินต่อไปในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยต่ำ และการดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) จากธนาคารกลางต่างๆ บวกรวมกับรัฐบาลทั่วโลกยังมีแนวโน้มจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังเพิ่มเติม ทำให้สภาพคล่องในระบบยังคงเพิ่มสูงขึ้น ภาวะดังกล่าวกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้น อันนำไปสู่การอ่อนค่าของสกุลเงิน ซึ่งจะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวกต่อราคาทองคำได้ในระยะยาว”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG  กล่าว

อย่างไรก็ดี แนะนำให้เน้นทำกำไรระยะสั้นเป็นหลัก รวมถึงต้องประเมินความเสี่ยงที่รับได้ก่อนเข้าสถานะ และกำหนดจุดตัดขาดทุนให้ชัดเจน เนื่องจากภาพรวมราคาทองคำยังคงมีความผันผวน แนะนำหาจังหวะสะสมทองคำหากราคาไม่หลุดแนวรับ โดยเป็นการแบ่งไม้เข้าซื้อ ที่สำคัญคือต้องเหลือเงินทุน ส่วนหนึ่งเพื่อเข้าซื้อในกรณีที่ทองคำมีการปรับตัวลดลงเพื่อถัวต้นทุน

- Advertisement -

ขอขอบคุณ : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More