- Advertisement -

หลังจากที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีความชัดเจน ก็ถึงเวลาที่ทองคำจะต้องส่องแสง โดยราคาทองคำสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว หลังการประชุม FOMC ก่อนมุ่งสู่ระดับ 1,800 ดอลลาร์

สิ่งนี้เป็นการตอบสนองต่อนโยบายของ FED ที่ระบุว่ากำลังเพิ่ม QE เป็นสองเท่า เพื่อเปิดทางในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสามครั้งในปี 2565

Suki Cooper นักวิเคราะห์โลหะมีค่าของ Standard Chartered กล่าวว่า แม้ผลประชุมออกมา จะทำให้ราคาทองคำลดลง เพราะ Fed ได้กระชับนโยบายการเงินมากขึ้น

แต่ราคาทองคำได้รับข่าวไปหมดแล้ว และกลับมาแข็งค่าอย่างรวดเร็ว และเมื่อทองคำทะลุ 1,800 ดอลลาร์ ไปได้ ถือว่ามีความสำคัญ เพราะเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่งมาก

- Advertisement -

Suki Cooper กล่าวเพิ่มเติมว่า ราคาทองคำได้ขยับตามเรียลยีลด์ และใกล้ชิดกว่า USD โดยราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะขึ้นไปยืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์ อีกครั้ง เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนค่าลง และเรียลยีลด์ยังคงติดลบ

โดยคาดว่า ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 1,875 ดอลลาร์ ในไตรมาสแรกของปีหน้า โดยได้แรงหนุนจากการซื้อทองของจีนในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน 6 สัปดาห์ และการซื้อทองคำของอินเดียในช่วงเทศกาล แต่เมื่อมองภาพรวมทั้งปี คาดว่าราคาทองคำเฉลี่ยในปี 2565 จะอยู่ที่ 1,774 ดอลลาร์

อย่างไรก็ดี มองว่าทองคำมีแนวโน้มจะสิ้นสุดปีด้วยการขาดทุนประมาณ 8.5% แต่เชื่อว่าทองคำจะกลับมาได้ โดยปัจจัยหลักที่จะมาเกี่ยวข้องกับราคาทองคำในปี 2565 จะเป็นเรื่องของตัวเลขเงินเฟ้อ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

โดยในช่วงต้นปี ราคาทองคำจะขัยบเพิ่มขึ้น แต่หลังจากนั้น วัคซีนที่จะช่วยเรื่องป้องกันโควิดจะออกมา และจะหนุนให้เศรษฐกิจโดยรวมฟื้นตัว แต่ต้องระวังเรื่องความเสี่ยงของสงครามการค้า ที่อาจจะส่งผลต่อราคาทองคำ

ที่มา : Kitco

- Advertisement -