- Advertisement -

หลังจากที่ FED , BOE และ ECB ได้เผยถึงนโยบายการเงิน ทำให้ราคาทองคำราคากลับมาพุ่งแรง แม้จะมาปิดสัปดาห์ต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ เล็กน้อย ทำให้สัญญาณการเคลื่อนตัวของราคาทองคำดูดี ซึ่งจะต้องมาดูว่าในท้ายที่สุดแล้ว ราคาทองคำจะปิดที่ที่ระดับใด 

คุณฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวกับ GoldAround.com ว่า แนวโน้มราคาทองคำในระยะสั้น มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น หลังจากหลังราคาได้ทะลุผ่านระดับสูงสุดของสัปดาห์ก่อนหน้าบริเวณ 1,793 ดอลลาร์ โดยได้ทะลุขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกระยะ ทั้ง 10, 21, 50, 100 และ 200 วัน และทะลุขึ้นมายืนเหนือแนวต้านจิตวิทยาบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ ได้ ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคยังไม่มีสัญญาณเชิงลบชัดเจน 

“ดังนั้นมอง ว่าราคายังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อได้ แต่นักลงทุนอาจต้องระวังแรงขายทำกำไรที่อาจสลับออกมา เพราะนับว่าราคาทะยานขึ้นจากระดับต่ำสุดในช่วงการประชุมเฟดมาแล้วกว่า 50 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคเริ่มบ่งชี้ถึง ภาวะซื้อมากเกินไป YLG แนะนำว่า อาจแบ่งขายทำกำไรบางส่วน หากราคาทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,808-1,821 ดอลลาร์ แล้วรอเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำปรับตัวลดลงทดสอบแนวรับแรกบริเวณ 1,783-1,767 ดอลลาร์  โดยตั้งตัดขาดทุนบริเวณ 1,753 ดอลลาร์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าว

ส่วนการคาดการณ์การเคลื่อนไหวราคาทองคำในไตรมาสแรกของปีหน้า คาดว่าราคาทองคำยังคง Consolidation สะสมกำลังในกรอบสามเหลี่ยม โดยในช่วงที่ผ่านมา ราคายังคงทำ Lower High ต่อเนื่อง แต่ก็เริ่มสร้างฐานราคาด้วยการพยายามยกระดับต่ำสุดขึ้นเช่นกัน และมีฐานสำคัญของราคาทองคำบริเวณ 1,676-1,680 ดอลลาร์

- Advertisement -

ดังนั้น คาดว่าในระยะกลางราคาทองคำจะยังคงแกว่งตัวออกข้างเพื่อสะสมกำลังต่อไป จนกว่าจะมีการ Breakout และตราบใดที่ราคายังคงเคลื่อนไหวเหนือฐานสำคัญของราคาบริเวณ 1,676-1,680 ดอลลาร์ ยังมองว่าทิศทางราคาทองคำในระยะกลางยังคงเป็นกลางและบวกมากกว่า

นอกจากนี้ นับตั้งแต่เดือน พ.ย. ไปจนกระทั่งต้นปีหน้าก่อนเทศกาลตรุษจีน จะเป็นช่วงที่ชาวจีนมีปริมาณความต้องการทองคำสูงที่สุด  โดยชาวจีนจะเริ่มนิยมสะสมทองคำตั้งแต่ช่วงวันชาติจีนใน เดือน พ.ย. ไปจนกระทั่งก่อนเทศกาลตรุษจีน เพื่อให้เป็นของขวัญและการออม

จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาเพิ่มเติม แม้จะมองว่าทิศทางในระยะกลางยังคง “เป็นกลาง-บวก” แต่แนะนำว่า หากราคาทองคำยังไม่สามารถดีดตัวขึ้นไปทำ Higher high เหนือ 1,877 ดอลลาร์  ก็ยังคงต้องระมัดระวังแรงขายที่จะสลับออกมาเป็นระยะ  อย่างไรก็ดี  หากเริ่มทำ Higher high ได้ จะทำให้ทิศทางในระยะกลางกลับมาเป็นบวกเช่นกัน

ในทางกลับกัน การปรับตัวลงของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเช่นเดิม โดยนักลงทุนระยะกลางเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงใกล้แนวรับบริเวณแนวรับ 1,753-1,721 ดอลลาร์ และต้องตัดขาดทุนหากราคาหลุดฐานสำคัญของราคาบริเวณ 1,676-1,680 ดอลลาร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวทิ้งท้าย

ขอขอบคุณ YLG

- Advertisement -