- Advertisement -

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 1 (+150) 09:30

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 2 (+50) 09:54

- Advertisement -

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 3 (+50) 11:30

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 4 (+50) 13:27

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 5 (+50) 14:40

- Advertisement -

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 6 (+50) 15:20

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 7 (+50) 15:37

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 8 (+50) 15:43

ทองคำแท่ง ครั้งที่ 9 (-50) 15:58

ภาพรวมการเคลื่อนไหวราคาทองคำ

ราคา gold spot วานนี้ ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงต่อเนื่อง 4 วันติดต่อกัน โดยปิดเพิ่มขึ้น 27.52 ดอลลาร์ และเมื่อเช้านี้หลังจากที่ตลาดเอเชียเปิดทำการ ราคาทองคำได้ขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดใหม่ของปีนี้บริเวณ 1,876 ดอลลาร์ ก่อนจะปรับตัวลดลงมาเคลื่อนไหวที่จุดแนวต้านเดิมที่ระดับ 1,866 ดอลลาร์

ทั้งนี้ ในภาพรวมราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากเรื่องของสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง กดดันดัชนีดอลลาร์ให้อ่อนค่า และหนุนราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น นอกจากนั้นยังมีเรื่อง ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากรัฐบาลสหรัฐสั่งปิดสถานกงสุลจีนที่เมืองฮิวสตัน และ จีนกำลังพิจารณาตอบโต้ด้วยการสั่งปิดสถานกงสุลสหรัฐในเมืองอูฮั่น และจุดนี้อาจจะเป็นอีกชนวนที่จะลุกลามให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา ทำให้เกิดแรงกระตุ้นการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยในวงกว้าง

ด้านกองทุน SPDR ได้ซื้อทองคำเพิ่มอีก 5.26 ตัน เป็นการซื้อ 3 วันติดต่อกันรวม ๆ เกือบ 20 ตัน ทำให้ขณะนี้ SPDR มีทองคำในคลังกว่า 1,220 ตัน

ประเด็นต้องติดตามวันนี้ ได้แก่ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของสหรัฐและจีน ส่วนคืนนี้สหรัฐจะประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดจะอยู่ที่ระดับ 1.30 ล้านราย ทรงตัวเท่ากับครั้งก่อน ดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือน มิ.ย. ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 2.1% หลังจากที่เดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 2.8%

กลยุทธ์การลงทุนทองคำวันนี้

แนวต้าน 1,881 ดอลลาร์ 1,889 ดอลลาร์ และ 1,902 ดอลลาร์
แนวรับ 1,858-56 ดอลลาร์ 1,848 ดอลลาร์ และ 1,835 ดอลลาร์

ราคาทองคำไทย
แนวต้าน บาทละ 28,000 บาทและ 28,115 บาท
แนวรับ บาทละ 27,805 บาท และ 27,635 บาท

วันนี้ราคาทองคำได้ปรับตัวสูงขึ้นมาก แต่เทรนด์ทางเทคนิคของรายสัปดาห์ก็ยังคงสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง แต่อาจติดปัญหาของ Indicators รายวัน ที่อาจมียึกยักกันบ้าง ยังไงก็ถือเป็นโอกาสดีให้ย่อตัวได้เข้าซื้อกันใหม่อีกครั้ง พร้อมความเสี่ยงที่มีมากกว่าวานนี้เป็นธรรมดา นั่นเป็นเรื่องของเทคนิค จุดสังเกตเล็ก ๆ หากไม่อยากให้ภาพรายวันเสียเทคนิคภาพขึ้นต่อเนื่อง ราคาก็ไม่ควรดันให้ลงต่ำกว่า 1,848 ดอลลาร์ มิเช่นนั้น หากมีข่าวลบเข้ามาเพียงเล็กน้อย มีหวังได้ติดลมล่างแน่เลย

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ นักลงทุนระยะสั้น : รอย่อตัว open long ที่ระดับ 1,858-56 ดอลลาร์ 1,848 ดอลลาร์ โดยมีจุด stop lost ที่ 1,843 ดอลลาร์อย่างเคร่งครัด ซึ่งกลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้มาก

แนวรับ 1,850 ดอลลาร์ 1,830 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,880-85 ดอลลาร์ และ 1,900 ดอลลาร์

ราคาทองคำทางด้านเทคนิคสดใส หลังจากที่ราคาทองคำปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง ส่วนทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 30.50-30.70 บาท/ดอลลาร์ เงินดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 โดยจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ทั้งในสหรัฐและทั่วโลก

แนวรับ 1,853 ดอลลาร์ 1,839 ดอลลาร์ และ 1,822 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,877 ดอลลาร์ 1,890 ดอลลาร์ และ 1,900 ดอลลาร์

แม้ว่าราคาจะสร้างระดับสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีแรงขายทำกำไรออกมาเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ หากราคาแกว่งตัวในระดับสูงเพื่อสะสมแรงซื้อ ยังมีโอกาสที่ราคาจะทดสอบแนวต้านในโซน 1,877 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่ของปี 2020 หากยืนได้แข็งแกร่งมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบ แนวต้านถัดไป ขณะที่แนวรับนั้นอยู่ในบริเวณ 1,853-1,839 ดอลลาร์

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,853 ดอลลาร์ได้อย่างแข็งแกร่ง สามารถรอขายทำกำไรบางส่วนหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,877 ดอลลาร์ แต่ถ้าฝ่าไปได้ให้รอขายบริเวณแนวต้านถัดไป

แนวต้าน 1,866 ดอลลาร์ 1,871 ดอลลาร์ และ1,876 ดอลลาร์
แนวรับ 1,850 ดอลลาร์ 1,845 ดอลลาร์ และ1,840 ดอลลาร์

ราคาทองคำดีดตัวขึ้นอีกครั้ง ได้แรง หนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย และได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และ ความคาดหวังที่ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐและสหภาพยุโรป (EU) จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ แนะเก็งกำไรขาขึ้น หากราคาอ่อนตัวก็เข้าซื้อได้เช่นกัน

ส่วนกลยุทธ์การลงทุนวันนี้ ให้รอซื้อที่จุด 1,860 ดอลลาร์ โดยมีเป้าหมาย 1,880 ดอลลาร์ และ stop lost ที่ 1,845 ดอลลาร์

จุดขาย 1,880 ดอลลาร หรือ บาทละ 28,050 บาท
จุดซื้อ 1,865 ดอลลาร์ หรือ บาทละ 27,880 บาท

ราคาทองคำเมื่อวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 32 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 1,871 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในรอบเกือบ 9 ปี โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และความคาดหวังที่ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐและสหภาพยุโรป จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

- Advertisement -