Gold Around
ราคาทองคำ ข่าวสารและแนวโน้มราคาทองคำวันนี้

ราคาทองคำเดินหน้าต่อ ลุ้นแตะ $2,000 หลังปัจจัยบวกถาโถม

- Advertisement -

306

- Advertisement -

มาดูความคืบหน้าการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งล่าสุดสื่อชั้นนำจากต่างประเทศหลายสำนัก ต่างคาดการณ์ว่า นายราฟาเอล วอร์นอค และนายโจน ออสซอฟฟ์ จากพรรคเดโมแครต จะได้รับชัยชนะ แม้จะมีคะแนนนำ นางเคลลี ลอฟเฟลอร์และนายเดวิด เพอร์ดิว จากพรรครีพับลิกัน อยู่ไม่มากนักก็ตาม โดยคาดว่าจะรู้ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการภายในเที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาไทย

หากผู้สมัครจากเดโมแครต กวาดมาได้ทั้ง  2 เก้าอี้ จะทำให้ “โจ ไบเดน” ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่จากพรรคเดโมแครต ครองเสียงทั้งหมดได้ ทั้งสภาสูง สภาล่าง รวมถึงทำเนียบข่าว ซึ่งจะทำให้ทุกนโยบายที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ไม่เหมือนช่วงที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ครองอำนาจอยู่ นั่นจะทำให้อาจได้เห็นการอัดฉีดเม็ดเงินประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์ ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ ไวรัส COVID-19 ผ่านการพิจารณาอย่างราบรื่น ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาทองคำทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างแน่นอน

ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวกับ GoldAround.com

อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ต้นปีราคาทองคำได้ขยับขึ้นมาแล้วประมาณ 60 ดอลลาร์ ทำให้คาดว่าในระยะสั้นอาจจะมีการพักตัวลงเล็กน้อยเพื่อเดินหน้าต่อ ซึ่งในภาวะปกติ การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงต้นปี มักจะอยู่ในแดนบวก แต่ปีนี้ได้มีปัจจัยบวกอื่นเข้าเสริมมากมาย ทั้งการเมืองสหรัฐฯ ที่ดูเหมือนจะจบลงในทุกประเด็น สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ยังน่าเป็นห่วง และค่าเงินดอลลาร์ที่มีทิศทางอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง

Gold Research Center
Gold Research Center

ทำให้มองว่า หากราคาทองคำวิ่งผ่านแนวต้านที่ 1,975 ดอลลาร์ไปได้ โอกาสที่จะเห็นราคาทองคำพุ่งไปแตะ 2,000 ดอลลาร์ ในช่วงก่อนที่ “โจ ไบเดน” จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นไปได้สูงมาก แต่หากเกิดเหตุการณ์พลิกผันขึ้นมา มองว่าแนวรับที่ระดับ 1,895-1,900 ดอลลาร์ น่าจะแข็งแกร่งมากพอ ขณะที่กรอบราคาในช่วงไตรมาสแรกนั้น อาจจะเห็นราคาทองคำขึ้นไปแตะระดับ 2,020 ดอลลาร์ หรือ ประมาณบาทละ 28,500-29,000 บาท

- Advertisement -

ส่วนกรอบใหญ่ของราคาทองคำ ยังอยู่ระหว่าง 1,675-2,300 ดอลลาร์ และมีแนวโน้มความเป็นไปได้ที่ราคาจะขึ้นไปแตะจุดสูงสุด เพราะเมื่อดูจากสถิติในช่วงที่ผ่านมา ในปีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำ ทองคำจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในปีที่ผ่านมา เฟดก็ใช้ดอกเบี้ยต่ำมาก ประกอบกับมีการอัดฉีดเม็ดเงินปริมาณมหาศาล ทำให้ราคาทองคำโตถึง 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าสูงมาก

ขณะที่ในปีนี้ ก็คาดว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยต่ำ ตามที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะคงนโยบายดอกเบี้ยต่ำไปถึงปี 2564 หากว่าราคาทองคำในปีนี้จะขยายตัวลงมาเหลือ 15 เปอร์เซ็นต์จากราคาต้นปี ที่อยู่ในระดับ 1,900 ดอลลาร์ โอกาสที่ราคาจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 200 ดอลลาร์ ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายที่จะอาจจะทำให้ราคาทองคำพุ่งไปแตะระดับ 2,200 ดอลลาร์ หรือมากกว่านั้นได้

ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าว
ดร.พิบูลฤทธิ์ วิริยะผล ผอ.ศูนย์วิจัยทองคำ
ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ

ขอขอบคุณ : ศูนย์วิจัยทองคำ

- Advertisement -

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More