- Advertisement -

สัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นอีกช่วงไม่เวลาที่ไม่ค่อยสู้ดีสำหรับราคาทองคำ แม้ว่าจะเปิดสัปดาห์ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1,820 ดอลลาร์ แต่หลังจากนั้นราคาทองคำก็หลุดระดับต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ มาอย่างต่อเนื่องและมาทำจุดต่ำสุดที่ 1,760 ดอลลาร์ก่อนจะมีแรงรีบาวด์ในช่วงปลายสัปดาห์ และราคาทองคำมาปิดสัปดาห์ที่แถว 1,785 ดอลลาร์

ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวกับ GoldAround.com ว่า ในช่วงนี้จะมีข่าวไม่สู้ดีกับราคาทองคำออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความคาดหวังว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะดีขึ้น หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ดูดีขึ้น ทั้งตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ลดลง และการฉีดวัคซีนป้องกัน ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตัวเลขศก.ของสหรัฐหลายตัวออกมาดีส่งผลให้ บอนยีลด์ เงินดอลลาร์ และดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นตลาดคริปโตเคอเรนซี่ ก็เข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการลงทุน ขณะที่ SPDR ได้ขายทองคำออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยต่างเหล่านี้ฉุดให้ราคาทองคำกลับมาเป็นแนวโน้มขาลงในระยะสั้น

ส่วนปัจจัยที่จะเข้ามาหนุนราคาทองคำในช่วงนี้ มีเพียงความคืบหน้าการออกมาตรการกระตุ้นศก.ของสหรัฐวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ และนโยบาย FED ที่ยังคงอัตราดอกเบี้ยต่ำไปอีกระยะ ขณะที่เรื่องอื่นๆ ที่ต้องติดตามก็คือ ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับจีนในประเด็นสงครามการค้าและความขัดแย้งในทะเลจีนใต้  ที่แม้ว่าระยะหลังจะดูเงียบลงไปแต่ก็ยังต้องติดตามใกล้ชิด รวมถึง ตัวเลข ศก.ในอียู

“ทั้งนี้มองว่ากรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในระยะสั้น ยังน่าเป็นห่วง หากราคาหลุด 1,650 ดอลลาร์ จะเข้าโซนอันตราย เพราะราคาทองคำอาจจะร่วงไปถึง 1,550 ดอลลาร์ 1,450 ดอลลาร์ และ1,300 ดอลลาร์ อย่างไรก็ดีจะเห็นได้ว่าเมื่อราคาร่วงลงมาก็จะมีแรงรีบาวด์กลับเข้ามาแรงพอสมควร ทำให้ราคาไม่ทรุดตัวลงไปมาก (ดูกราฟการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ..)หากราคากลับมายืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์ โอกาสที่จะกลับขึ้นไปยืนในกรอบสูงๆ ก็ยังมีความเป็นไปได้ เพราะปัจจัยหนุนก็ยังพอมีอยู่บ้าง และยังมองว่าในระยะกลาง และในระยะยาวยังดูดีอยู่ ดังนั้นการลงทุนในช่วงนี้ แนะนำเน้นเล่นสั้นๆ ในกรอบ 10-50 ดอลลาร์ เมื่อราคาทองคำย่อลงมาตามแนวรับให้เข้าซื้อ และรีบขายออกเมื่อวิ่งไปชนแนวต้าน”

ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ

- Advertisement -

ส่วนเป้าหมายระดับ 1,900 ดอลลาร์ นั้น ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำให้ความเห็นว่าโอกาสที่ราคาทองคำจะขึ้นไปแตะ 1,900 ดอลลาร์ ไตรมาสแรกไม่ใช่เรื่องง่าย ขณะนี้ต้องรอดูผลจากการอนุมัติมาตรการ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ที่คาดว่าจะออกมาก่อนกลางเดือนหน้าว่าจะมีมากน้อยเพียงไร และจะมีรายละเอียดการใช้เงินอย่างไร เพราะที่ผ่านมาตลาดก็รับข่าวในเรื่องนี้ไปมากพอสมควรแล้ว แต่อย่างน้อยก็น่าจะเข้ามาพยุงราคาทองคำไว้ได้ แต่ยังมองว่าในช่วงครึ่งปีแรกน่าจะเห็นราคาทองคำขึ้นไปแตะแนวดังกล่าวได้ เพราะตามธรรมชาติการเคลื่อนไหวของราคาทองคำจะปรับขึ้นในช่วงก่อนครึ่งปี ที่สำคัญเชื่อว่าเรื่องของเงินเฟ้อจะเริ่มส่งผลมากขึ้นเรื่อยๆ

“อยากให้นักลงทุนเข้าใจก็คือเรื่องของธรรมชาติการลงทุนทองคำ ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง ซึ่งนักลงทุนจะนำเงินมาพักไว้เมื่อเกิดเหตุไม่น่าไว้วางใจ แต่เมื่อเรื่องราวเหล่านั้นผ่านไป เม็ดเงินจากตลาดทองคำก็จะไหลไปสู่สินทรัพย์ที่ประเมินแล้วว่าให้ผลตอบแทนมากกว่า ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว ศก.โลกได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ตลาดทองคำจึงเป็นหลุมหลบภัยชั้นยอด และได้สร้างผลตอบแทนมหาศาล แต่ขณะนี้ทุกอย่างเริ่มดีขึ้น ทำให้เม็ดเงินจากทองคำก็เริ่มไหลไปยังสิทรัพย์ที่มีอัตราการเติบโตที่ดี อย่างตลาดหุ้น คริปโตฯ พันธบัตร รวมถึงสกุลเงินต่างๆ  อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดความขัดแย้งหรือสถาการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจอีกครั้ง ก็ยังเชื่อว่าเงินจะไหลกลับเข้ามายังตลาดทองคำ และทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาอีกรอบ เพราะทองคำก็ยังเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล”

ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำกล่าวทิ้งท้าย

- Advertisement -